W ลุยขยายสาขาร้านอาหารทั้งเครือพร้อมเล็งผุดแบรนด์ใหม่หลังฝ่าวิกฤติโควิด

นายศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.วาว แฟคเตอร์ (W) เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต และเป้าหมายการเติบโตของแต่ละธุรกิจในเครือของบริษัทในปี 65 จะมุ่งเน้นไปที่การขยายสาขาและบริการ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้นต่อไปในอนาคต

ปัจจุบัน บริษัทมีเบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้การดูแลจำนวน 4 กลุ่ม คือ ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ KAGONOYA ธุรกิจร้านอาหารสไตล์ยุโรป ร้าน Le Bouef ธุรกิจร้านขนมอบ ร้าน BAKE WORKS และธุรกิจร้านพิซซ่า DOMINO’s PIZZA

สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น บริษัทมั่นใจว่าร้านชาบูบุฟเฟต์ต้นตำรับจากญี่ปุ่นแบรนด์ KAGONOYA เป็นผู้นำของตลาดชาบูอยู่ใน TOP 5 ด้วยคุณภาพของเนื้อ ต้นตำรับน้ำซุป และรายการอาหารหลากหลายสร้างความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีการพัฒนารายการอาหารให้หลากหลายขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรงความต้องการของลูกค้า ตั้งเป้าหมายขยายสาขาอีก 3 สาขาภายในปี 65 เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ 11 สาขา

ธุรกิจร้านอาหารสไตล์ยุโรป ร้าน Le Bouef มุ่งเน้นการส่งมอบสเต็กที่ดีที่สุด ควบคู่กับฟรายทอดกรอบและซอสสูตรพิเศษ Cafe De Paris เน้นชูเอกลักษณ์จุดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการเก็บข้อมูลและพัฒนารูปแบบร้านให้ตอบสนองกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุดอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มี 2 สาขา หลังสวน และอารีย์ โดยมีแผนจะขยายสาขาอีก 3 สาขา และเป็นร้านที่เป็น New Concept อีก 5 สาขา รวมทั้งยังมีพันธมิตรในการบริการอาหาร ภายในโรงแรมต่างๆ กับเชฟ DK หรือดีแพงเกอร์ คอสลา (Deepanker Khosla) ที่เป็นเชฟระดับนานาชาติและมีรางวัลการันตีและมีประสบการณ์การทำงานในโรงแรมและร้านอาหารมามากกว่า 10 ปี ที่แรกจะเริ่มที่ Summerset พระราม 9

ธุรกิจร้านขนมอบ BAKE WORKS ซึ่งนำขนมชื่อดังจากญี่ปุ่นมารวมไว้ในร้านเดียว ประกอบด้วย Bake Cheese Tart, RAPL พายแอปเปิ้ล, ZakuZaka และ Macaron Dhara Dhevi ปัจจุบัน BAKE WORKS มี 5 สาขา และ Macaron Dhara Dhevi อีก 10 สาขาที่อยู่ใน Prime Location ของกรุงเทพฯ และจะมีการเปิด Pop up Store ตาม Location ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ หมุนเวียนกันไป 5-10 สาขา นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาการทำสินค้าของตัวเอง ตั้งแต่กระบวนการคิดค้นสูตร และขั้นตอนการผลิตเพื่อการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นในไตรมาส 2/65

ธุรกิจร้านพิซซ่า DOMINO’s PIZZA ที่เป็นร้าน QSR (Quick Service Restaurant) เน้นเรื่องความรวดเร็ว และความสะดวกสบายในการทาน Pizza ด้วยความคุ้มค่าที่สุด ณ สิ้นปี 64 มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 31 สาขา และจะขยายต่อให้มากขึ้นเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า โดยวางแผนการขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้ได้ 60 สาขาภายในสิ้นปี 65 โดยยังเน้นจุดเด่นการเป็นผู้นำในเรื่อง Delivery Expert จัดส่งให้ลูกค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็ว พัฒนารสชาติให้เข้าถึงได้ง่ายและถูกปากคนไทย ในการวางแผนก้าวไปข้างหน้าที่อาศัย Technology and Data Driven เพื่อความแม่นยำ และตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 412 ล้านบาท โดยรายได้ทั้งหมดมาจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้นจากปี 63 จำนวน 203 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้ DOMINO’S PIZZA เต็มปี หลังจากเริ่มรับโอนกิจการมาในเดือน ต.ค.63 ทำให้ยอดขายของ DOMINO’S PIZZA ในปี 64 สูงขึ้น 133 ล้านบาท และการเติบโตขึ้นของยอดขายจากกลุ่มธุรกิจเดิมอีกจำนวน 70 ล้านบาท

ถึงแม้ในปี 64 สถาณการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีการปิดการขายอาหารจากหน้าร้านในบางช่วง แต่จากข้อมูลใน One Report ของบริษัทยังสามารถบริหารการเติบโตของยอดขายได้ดี โดยมีอัตราเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตเฉลี่ย 16.8% เทียบจากปี 63 และมีอัตราเติบโตของยอดขายรวม (TSS) เพิ่มขึ้น 45% หลักๆ เป็นผลจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในทุกแบรนด์และการผลักดันยอดขายจากแผนการตลาดและการพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ลูกค้า ปัจจุบัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top