“หลี่ เค่อเฉียง” เตือนศก.จีนถูกกระทบจากล็อกดาวน์ หนุนใช้มาตรการฟื้นฟู

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนได้ออกแถลงการณ์เตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเป็นครั้งที่ 3 ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ว่า จีนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลให้การผลิตและการใช้จ่ายเผชิญกับภาวะชะงักงัน

นายหลี่กล่าวในระหว่างการประชุมสัมมนาซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลท้องถิ่นของจีนว่า หน่วยงานของรัฐควรตระหนักถึงความเร่งด่วนเมื่อมีการบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ และจีนควรต้องศึกษาและนำนโยบายเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาใช้เพื่อพยุงเศรษฐกิจ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายหลี่เตือนในลักษณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการอื่น ๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุด

นายหลี่ยังกล่าวด้วยว่า จีนควรเร่งประกาศใช้มาตรการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการใช้พันธบัตรชนิดพิเศษ และการใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาตำแหน่งงาน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลท้องถิ่นควรต้องใช้นโยบายของตนเองเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย และควรหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายที่จะทำให้ตลาดคาดการณ์ไปในทิศทางที่ผิด

การแสดงความเห็นของนายหลี่เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของงานฉุกเฉินและครอบครัวของพวกเขาเดินทางออกจากนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เนื่องจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองชาวอเมริกันทบทวนการเดินทางไปยังประเทศจีนด้วย

นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 2 ในวันศุกร์นี้ และอาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในไตรมาสนี้ ส่วนในด้านการคลังนั้น คาดว่ารัฐบาลท้องถิ่นของจีนจะเร่งจำหน่ายพันธบัตรเพื่อระดมเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการใช้มาตรการล็อกดาวน์ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีนในเดือนมี.ค. โดยมาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนร่วงลงรุนแรง เนื่องจากโรคโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักในจีน

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนลดลงสู่ระดับ 48.1 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.พ. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 42.0 ร่วงลงจากระดับ 50.2 ในเดือนก.พ.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top