สตาร์ มันนี่ ยื่นไฟลื่งขาย IPO 300 ล้านหุ้น-เข้า SET ใช้ขยายธุรกิจ-คืนเงินกู้

บมจ.สตาร์ มันนี่ (SM) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลสรุป (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 300,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

SM ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภทรถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รถใช้งานเพื่อการเกษตร รวมถึงสินเชื่อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงขายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบขายเงินสดและขายเงินผ่อน มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อทุกประเภท ขยายสาขา รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และ/หรือประกันชีวิต เป็นต้น, ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัท ภายหลังหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินทุนสำรองอื่น

บริษัทมี 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ (1) ธุรกิจจำหน่ายสินค้า ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ตู้แช่ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งในรูปแบบการจำหน่ายสินค้าแบบขายเงินสดและขายผ่อนชำระ ซึ่งจะจัดทำเป็นสัญญาเช่าซื้อ โดยจำหน่ายสินค้าผ่าน “ร้านสตาร์มันนี่” และช่องทางออนไลน์

และ (2) ธุรกิจให้บริการปล่อยสินเชื่อแบบมีหลักประกัน และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โดยหลักประกันเงินให้กู้ยืมดังกล่าว ได้แก่ เล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ เล่มทะเบียนรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง เล่มทะเบียนรถยนต์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ รถตู้โดยสาร รถบรรทุก เป็นต้น รวมถึงโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยมีพื้นที่การให้บริการครอบคลุมภูมิภาคตะวันออก นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้บริการด้านอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น การเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย เป็นต้น

ปัจจุบันมีสาขาสำหรับให้บริการทั้งสิ้น 85 สาขา ครอบคลุมจังหวัดภาคตะวันออก และจังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมา โดยในปี 65 บริษัทได้เริ่มเปิดช่องทางการขายและให้บริการในรูปแบบสาขา Express ในช่วงเดือนมี.ค.65 เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นและสะดวกขึ้น สาขา Express จะเป็นลักษณะโชว์รูมการขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า มือถือ คอมพิวเตอร์

บริษัทมีคลังสินค้ากลางสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 1 แห่ง ได้แก่ สาขาโกดังขนส่งใหม่ และคลังสินค้าประจำสาขาอีกจำนวน 16 แห่ง รวมคลังสินค้าทั้งหมด 17 แห่ง

ผลประกอบการในช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวม  1,087.47 ล้านบาท, 1,030.89 ล้านบาท และ 1,239.84 ล้านบาทตามลำดับ โดยรายได้จากการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ รายได้จากการขายสินค้า รายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ (รายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัย รายได้ส่งเสริมการขาย เป็นต้น)

ขณะที่มีกำไรสุทธิ 78.19 ล้านบาท, 47.62 ล้านบาท และ 102.94 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.19%, 4.62% และ 8.30% ตามลำดับ

ณ สิ้นปี 64 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,298.03 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,784.08 ล้านบาท และ มีส่วนของผู้ถือหุ้น 513.95 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัท ภายหลังหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินทุนสำรองอื่น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top