ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง จากวิตกเงินเฟ้อ-ดอกเบี้ยขาขึ้น

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพุธ (18 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งถูกเทขายออกมา เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกอีกครั้งเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.95 จุด ลดลง 5.02 จุด หรือ -1.14%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,352.94 จุด ลดลง 77.25 จุด หรือ -1.20%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,007.76 จุด ลดลง 178.18 จุด หรือ -1.26% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,438.09 จุด ลดลง 80.26 จุด หรือ -1.07%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 2.7% และการร่วงลงของราคาทองแดงถ่วงหุ้นกลุ่มวัสดุพื้นฐานลงด้วย

นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังอังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นแตะระดับ 9% ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งใกล้เคียงกับที่ธนาคารกลางอังกฤษคาดไว้ว่าจะอยู่เหนือระดับ 10% ในปีนี้

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังอังกฤษเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

สำนักงานสถิติของอียูเปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนอยู่ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 7.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงและอาหารที่พุ่งขึ้น

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ยุติโครงการซื้อพันธบัตรในไตรมาส 3

นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า ECB มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 1% ภายในการประชุมเดือนธ.ค.ปีนี้

หุ้นบางตัวปรับตัวขึ้นหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อาทิ หุ้นยูโรเน็กซ์ พุ่ง 3.9% ขานรับรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ แต่หุ้นเอบีเอ็น แอมโร ร่วงลง 11.9% แม้เปิดเผยผลกำไรสูงเกินคาด เนื่องจากธนาคารเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามในยูเครน

นอกจากนี้ หุ้นบางตัวยังบวกขึ้นสวนทางตลาดขานรับข่าวเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.1% และหุ้นยูนิเครดิตของอิตาลี พุ่ง 2% หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเจรจาควบรวมกิจการกันก่อนหน้านี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top