TRV เชื่อ Q2/65 ฟื้นโตหลัง Q1/65 ผลงานหด เดินหน้าปรับกลยุทธ์-หวังออร์เดอร์ใหม่หนุน

นายธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ (TRV) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในไตรมาส 2/65 เชื่อว่าจะเติบโตได้ตามแผน โดยบริษัทได้ปรับแผนการลงทุนในการขยายตลาดเพิ่มฐานลูกค้ารายใหม่ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น โดยในปี 65 บริษัทฯ วางแผนลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทพลาสติก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท จากผลิตภัณฑ์เดิมที่เป็นยางและซิลิโคน

พร้อมใช้กลยุทธ์การปรับลดและควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย การบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ และควบคุมคุณภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมยานยนต์ทำให้การสั่งซื้อและการผลิตชะลอแผนออกไป รวมถึงราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้นที่ได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จึงมองเห็นโอกาสในตลาดชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็นโอกาสใหม่ เข้ามาเพิ่มเติมยอดขายในอนาคตให้แข็งแรง กระจายความเสี่ยงไปยังตลาดใหม่ๆเพิ่มเติม

ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากบริษัทได้รับออเดอร์ใหม่เข้ามา และในปีนี้ TRV มีความพร้อมในการขยายกำลังการผลิต ด้วยฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้นหลังได้เงินจากการระดมทุนในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัว โดยเพิ่มกำลังการผลิตชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในกลุ่มยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 94 ล้านชิ้นต่อปี ในช่วงปี 65-68 ขณะที่แนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนอีกครั้ง โดยเฉพาะปีนี้น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญสนับสนุนภาพรวมรายได้และศักยภาพทำกำไรเพิ่มขึ้น

โดยกระแสการเติบโตในกลุ่มยานยนต์ EV และสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี IoT จะเป็นโอกาสในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปที่มีคุณภาพ นอกจากนี้การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยมีการเพิ่มขึ้น 2-4 % ต่อปี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่

“ผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดไตรมาส 1/65 มีรายได้จากการขาย 46.98 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5.98 ล้านบาท ผลประกอบการลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ ขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบบางรายการที่นำเข้าจากต่างประเทศ มาใช้เป็นชิ้นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยานยนต์ ทำให้รถบางรุ่นต้องพักสายการผลิตและการพัฒนารถใหม่ก็ชะลอแผนออกไป

ขณะที่บริษัทฯ มีภาระต้นทุนด้านวัตถุดิบสูงขึ้นจากการปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก และความต้องการบริโภคน้ำมันสูงเกินกว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่ในขณะนี้” นายธีรวุฒิ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top