หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามตปท.คลายกังวลเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย-น้ำมันพุ่ง

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รับผลประกอบการบริษัทค้าปลีกสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาดคลายกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอ และต่อเนื่องหลังรายงานประชุมเฟดที่ไม่มีเซอร์ไพร์สตลาด หนุนการกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น และยังมีแรงหนุนราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น รวมถึงภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังเริ่มผ่อนคลายมาตรการ โดยให้แนวต้าน 1,645-1,650 จุด แนวรับ 1,625-1,630 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ โดนที่ตลาดอาจจะมีการคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงมาบ้าง หลังเมื่อคืนนี้ผลประกอบการของบริษัทปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯออกมาดีกว่าตลาดคาด และหลังจากที่รายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่มีปัจจัยเซอร์ไพร์สตลาด ทำให้ตลาดผ่อนคลายเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและลดงบดุลลง หนุนการกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ช่วยหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ รวมถึงปัจจัยในประเทศยังคงเป็นภาพที่หนุนต่อเศรษฐกิจไทยที่เริ่มทยอยฟื้นตัวกลับมา หลังเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆออกมามากขึ้น

โดยให้แนวต้าน 1,645-1,650 จุด แนวรับ 1,625-1,630 จุด

ขณะที่ บล.เอเชียเวลท์ คาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,645 จุด โดยคาดว่า SET ยังคงปรับเพิ่มต่อเนื่อง ตอบรับเชิงบวกต่อการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟด เดือน พ.ค. เป็นไปตามคาด ลดความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราเร่ง เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยด้านเงินเฟ้อ

รวมไปถึงการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบตอบรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและอังกฤษ ทางการจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์กลางสัปดาห์หน้า และ จากการเริ่มเข้าสู่ Driving season ในสหรัฐฯ ที่จะเริ่มในวัน Memorial Day ในช่วงปลายเดือน พ.ค. และสิ้นสุดในวันแรงงานสหรัฐฯ ประมาณเดือน ก.ย. เป็น Sentiment เชิงบวก

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,637.19 จุด พุ่งขึ้น 516.91 จุด หรือ +1.61%ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,057.84 จุด เพิ่มขึ้น 79.11 จุด หรือ +1.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,740.65 จุด พุ่งขึ้น 305.91 จุด หรือ +2.68%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,947.80 จุด พุ่งขึ้น 342.96 จุด หรือ +1.29%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,646.06 จุด พุ่งขึ้น 529.86 จุด หรือ +2.63% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,135.03 จุด เพิ่มขึ้น 11.92 จุด หรือ +0.38%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 พ.ค.) ที่ระดับ 1,633.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด, +0.53%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,465.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(26 พ.ค.)เพิ่มขึ้น 3.76 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 114.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 พ.ค.) อยู่ที่ 20.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.17 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่า จับตาทิศทาง Flow

– “โฟกัส กรุ๊ป” รอบ ผู้บริโภคประสานเสียง 100% ค้าน ทรูควบรวมดีแทค ชี้ชัดเท่ากับผูกขาดอุตสาหกรรม หวั่นเหลือ 2 รายใหญ่ อาจ “ฮั้วราคา” โขกค่าบริการแพงลิ่ว ผู้บริโภครับกรรมไร้ที่พึ่ง “เอไอเอส” ซัดหนัก ไม่ว่าจะออกมาตรการหรือกำหนดแผนเยียวยา ก็ไม่ทำให้ตลาดกลับคืนสภาวะเดิมได้ ขณะที่สองบริษัทต้นเรื่อง”ทรู-ดีแทค” ปฏิเสธนาทีสุดท้ายเมินเข้าให้ความเห็น “ทีดีอาร์ไอ” ย้ำควบรวมตลาดผูกขาดกระจุกตัว ระดับรุนแรง

– นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยในการประชุมประจำเดือนของสมาคมว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเคยมียอดเดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับ 1 เกือบ 11 ล้านคน เมื่อปี 2562 มองว่ายังต้องรอการฟื้นตัวอีกสักพัก เนื่องจากปัจจุบันเกิดการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จนต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง ทำให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวต้องหาโอกาสจากตลาดอื่นๆ ในเอเชีย เช่น อินเดีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ มาเสริม

– ทีทีบี คาดยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า’บีอีวี’ปีนี้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 539.7% ศูนย์วิเคราะห์ทีทีบีชี้ผลพวงน้ำมันแพง-มาตรการรัฐหนุนรถอีวี ค่ายรถยนต์กระโดดลงสนามร่วมชิงแชร์เพิ่มขึ้น

– เปิดสมการเสียงสวิงโหวต ตัวแปรล้มรัฐบาล “ธรรมนัส” ลั่นเศรษฐกิจไทย ผนึก “กลุ่ม 16” กุม 40 เสียง อัดรัฐมนตรี พปชร.หยุดปากดี ด้าน “ชัยวุฒิ” มั่นใจเสียงรัฐบาลฉลุย เหน็บ “ผู้กอง” ต่างคนต่างอยู่ ไม่ดึงกลับพปชร. ขณะที่วิปรัฐบาล อัดเกมการเมืองจ้องคว่ำงบประมาณปี 66 “ชินวรณ์” มั่นใจผ่านวาระแรก

หุ้นเด่นวันนี้

– PTTEP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 156 บาท กำไรไตรมาส 1/65 ที่ 1.05 หมื่นลบ. (-1%QoQ,-9%YoY) แนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/65 รับอานิสงค์น้ำมันโลกยังสูง ขณะที่จีนมีแนวโน้มคลายล็อกดาวน์หนุนอุปสงค์ สำหรับบริษัทฯ ล่าสุดมีเซ็นซื้อขายน้ำมันดิบ Oman E&P Corp. จากโอมาน จากปัจจุบันมีการลงทุนในโอมาน 3 โครงการ (Oman Bl.61 จำนวน 20%,PDO Bl. 6 จำนวน 2%, และ Mukhaizna Bl. 53จำนวน 1%) แรงซื้อกลุ่มบิ๊กแคปจากการฟื้นตัวของดัชนีเป็นอีกแรงหนุน ขณะที่ EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดมากกว่าคาดจาก -0.73 ล.สู่ -1.019 ล้านบาร์เรล รวมทั้งได้แรงหนุนอุปสงค์ช่วง Memorial Days

– IVL (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 60 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 โตแกร่งที่ 1.4 หมื่นล้านบาท +161% qoq and +134% yoy แนวโน้มไตรมาส 2/65 ยังทรงตัวในระดับสูงเพราะจะรับรู้ปริมาณขายและรายได้จาก Oxitino ในบราซิลเข้ามาเต็มไตรมาส

– SC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท ยืนยันภาพกำไรไตรมาส 1/65 ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว และจะเติบโตทั่ง Q-Q และ Y-Y ใน ไตรมาส 2/65 และโดยเฉพาะ 2H22 จากทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่และแผนการโอนที่เร่งตัวเราคาดกำไรปี 2565 +17% Y-Y ทำ New High อย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นปรับลงแรงต่อเนื่องหลัง XD ทำให้ PER ปัจจุบันต่ำเพียง 6 เท่าและให้ Dividend Yield เกือบ 7% ต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top