SCI ชะลอลงทุนเหมืองขุดบิทคอยน์ หันมาลงทุนคริปโทฯ ในกรอบวงเงิน 30 ลบ.

บมจ.เอสซีไอ อีเลคทริค (SCI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติชะลอการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาเหรียญบิทคอยน์มีการปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งราคาปัจจุบันปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่บริษัทได้

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้ลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล มีกรอบวงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยจะเริ่มลงทุนตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 65 จะลงทุนให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/65 เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้แก่บริษัท

อนึ่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/65 เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอสซีไอ เวนเจอร์ จำกัด (SCIV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) จำนวนเงิน 140 ล้านบาท เพื่อสร้างผลตอบแทนและเป็นช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท

ทั้งนี้การลงทุนซื้อขายสิทรัพย์ดิจิทัล บริษัทฯ จะลงทุนเฉพาะสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ผ่านบริษัทเอสซี ไอ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และจะทำการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทเงินดิจิทัลผ่านตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงอย่างมากในอุตสาหกรรม Cryptocurrency โดยจะเริ่มลงทุนตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.65 และจะลงทุนให้เสร็จภายในไตรมาส 3/65

พร้อมกันนี้เนื่องจากธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลเป็นธุรกรรมที่ใหม่สำหรับทั่วโลก และยังไม่มีมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง บริษัทฯ ได้พิจารณาว่าการลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล มีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว จึงได้นำหลักการของมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 3 เรื่องสินทรัพย์ไม่มีตัวตน มาประยุกต์ใช้ และจัดประเกทไว้เป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

บริษัทฯ บันทึกตันทุนเริ่มแรกของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลตามราคาทุน ซึ่งเป็นมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ได้สินทรัพย์มาภายหลังการรับรู้รายการเริ่มแรก สินทรัพย์สกุลเงินดิจิหัลแสดงมูลค่าด้วยมูลค่าตามราคาทุน (ตามวิธีถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก) หักค่าเผื่อการด้อยค่าสะสม (ถ้ามี) ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทไม่มีการตัดจำหน่ายสินทรัพย์สกุลงินดิจิทัล เนื่องจากมีอายุการทราบแน่นอน โดยบริษัทจะทบทวนทุกปีว่าสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวยังคงมีอายุการให้ประโยชน์ไม่ทราบแน่นอน

ทุกวันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน กลุ่มบริษัทจะทำการประเมินการด้อยค่าของสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล โดยจะบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเมื่อมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์สกุลงินดิจิทัลสูงกว่ามูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน ซึ่งมูลค่ายุติธรรมวัดจากราคาถั่วเฉลี่ยจากราคาสูงสุดและต่ำสุดจากเว็บไซด์ซื้อขายบิทคอยน์ (www.bitkub.com) ณ วันสิ้นรอบระยะเวลารายงาน

บริษัทฯ จะตัดรายการสินทรัพย์สกุลงินดิจิทัลออกจากบัญชี เมื่อจำหน่ายสินทรัพย์หรือคาดว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตจากการใช้หรือการจำหน่ายสินทรัพย์ายการผลกำไรหรือขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์จะรับรู้ในส่วน

ของกำไรหรือขาดทุน เมื่อกลุ่มบริษัทตัดรายการสินทรัพย์นั้นออกจากบัญชี

สำหรับเหตุผลของการลงทุน มองว่าสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนชี (Cryptocurrency) เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีบล็อกเซน (Blockchain) ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าเทคในโลยีบล็อกเชน (Blockchan) เป็นนวัดกรมที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยผู้แปลงการทำงานของธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยี Blockchain มีการการเติบโตเป็นอย่างมาก และถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม ไม่จำกัดแค่ธุรกิจการเงิน การเดิบโตของบล็อคเชนส่งผลให้โครงข่ายเติบและแข็งแกร่งมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น และมีมูลค่าสูงขึ้น บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าสกุลเงินดิจิทัลกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว รวมถึงสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นได้อีกมากในอนาคต

ขณะที่การตัดสินใจลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) จะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้น และจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯ เป็นหลัก โดยบริษัทฯ มองว่าตลาดจะยังคงมีความผันผวนในช่วงระยะเวลาอันสั้น ทำให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอาจมีการเปลี่ยนแปลงและมีความไม่แน่นอนสูง การตัดสินใจในเรื่องจำนวน ช่วงเวลาในการลงทุน ประเภท หรือราคาของสกุลเงินดิจิทัลที่บริษัทฯ จะเข้าลงทุนจึงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและความผันผวนที่กับหุ้นของบริษัทฯ ได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top