ภท.ยันหนุนรัฐบาลผ่านงบปี 66, ไม่กังวล “อุ๊งอิ๊ง”ลงพื้นที่อีสาน ชี้ขึ้นกับประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะโหวตให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างแน่นอน ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.-2 มิ.ย.นี้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านขู่จะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ก่อนรับหลักการนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย

ส่วนจะถึงขั้นมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า การจัดเตรียมเรื่องงบประมาณไม่ใช่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำ แต่ทุกอย่างเริ่มจากความต้องการของประชาชน และผ่านการกลั่นกรองนำเสนอจากข้าราชการประจำ ซึ่งครม.มีหน้าที่พิจารณา และส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎร

นายอนุทิน กล่าวว่า หากฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐมนตรีคนไหนปฎิบัติหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เหมาะสม และมีการทุจริต ก็ควรจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่ออภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลไป เพราะเรื่องงบประมาณรายจ่าย มีผลกับการเร่งนำงบประมาณมาใช้กับประชาชน หากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ มีปัญหา ก็จะมีส่งผลกระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณอีกมากมาย

ส่วนกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย เตรียมลงพื้นที่อีสานใต้ในเดือนมิ.ย.นี้ จะกระทบต่อฐานเสียงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีก 9- 10 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะลงพื้นที่ทางการเมือง ที่ต้องเริ่มรณรงค์เตรียมการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความนิยมให้กับประชาชน ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และไม่มีพื้นที่ของใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน หากมีโอกาสก็ต้องเร่งลงพื้นที่ เพื่อชี้แจงและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เลือกเขาเข้ามาเป็นผู้แทนฯ

ส่วนน.ส.แพทองธาร จะปลุกกระแสในพื้นที่ภาคอีสาน เหมือนกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำไว้ได้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้มองเรื่องดังกล่าวเป็นองคาพยพของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งทุกพรรคการเมืองต่างก็มีดี และเร่งสร้างนโยบายที่จับต้องได้

ส่วนกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ออกมาระบุว่าเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ใช่ความรับผิดชอบของกทม.ฝ่ายเดียวนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมือง จะต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

“ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานหรืออะไรก็ตาม และเชื่อว่าไม่มีใครโยนเรื่องดังกล่าวให้นายชัชชาติ รับผิดชอบ” นายอนุทิน กล่าว

พร้อมมองว่า ควรให้เวลานายชัชชาติ ได้เข้ามาศึกษาข้อมูลที่มาที่ไป ศึกษารายละเอียดในประเด็นข้อสงสัยของเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าสำหรับนายชัชชาติ ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะมีฉันทานุมัติจากประชาชน 1.3 ล้านเสียง โดยต้องคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และน่าจะยึดตามข้อกฎหมายทุกประการ

ส่วนแนวทางของผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ สอดรับกับแนวทางของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและถูกกฎหมายถือว่าสอดรับกับทุกฝ่าย

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงสถานบันเทิงที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย. 65 ว่า ที่ผ่านมาได้กำชับวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายรับทราบและจะเร่งดูเรื่องของระบบ Thailand Pass ซึ่งในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ คนไทยไม่ต้องกรอกระบบดังกล่าวแล้ว และในอนาคตจะยกเลิกทั้งหมด เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น

ส่วนจังหวัดที่จะให้มีการถอดหน้ากากอนามัยจะเป็นพื้นที่ใดบ้างนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากยังไม่มั่นใจ ประชาชนก็ยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ตามปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก แต่หากมีคนจำนวนน้อยแล้วมั่นใจว่ามีความปลอดภัย ก็สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้ ต่อให้ไม่มีโควิด-19 ก็สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top