สุพัฒนพงษ์ คาดต้นก.ค.สรุปแผนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า มุ่งพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “มาตรการ EV ขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเซีย” ในงานสัมมนา EV Forum 2022 : Move Forward to New Opportunity ว่า คาดว่าราวต้นเดือน ก.ค.65 จะได้ข้อสรุปเรื่องแผนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ทั้งจำนวนสถานีประจุไฟฟ้า โรงงานผลิตแบตเตอรี่ วงเงินสินเชื่อแบบผ่อนปรนเพื่อสนับสนุนการลงทุน

“ประชาชนให้การตอบรับยานยนต์ไฟฟ้ากันมาก แค่ยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมามากถึง 1.2 หมื่นคันแล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นมียอดขายแค่ปีละหมื่นคัน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ผลพวงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า จะก่อให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก พร้อมๆ กันไปจะมีการวางระบบเศรษฐกิจที่เอื้อต่อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานจากการพัฒนาพลังงานชีวมวลทดแทนพลังงานฟอสซิล การพัฒนาใช้เชื้อเพลิงจากไฮโดรเจน การพัฒนาใช้แอลกอฮอล์ผสมในน้ำมันอากาศยาน การพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ขณะเดียวกันเราต้องการลดปริมาณคาร์บอน ดังนั้นการผลิตไฟฟ้าต้องมาจากพลังงานสะอาด ทั้งจากแสงแดด ลม ชีวมวล ซึ่งมีราคาที่ถูกลง และลดลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติที่มีราคาเพิ่มขึ้นจาก 7 ดอลลาร์/ล้านบีทียู เป็น 35 ดอลลาร์/ล้านบีทียู หลังเกิดวิกฤตยูเครน ถ้าทำได้จะลดการพึ่งพา เกิดเสถียรภาพด้านพลังงาน ลดปริมาณคาร์บอน สร้างการจ้างงาน

ส่วนโรงกลั่นน้ำมันอาจต้องปรับตัวหลังความต้องการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงลดลง โดยโรงกลั่นน้ำมันต้องมุ่งไปผลิตสินค้าด้านปิโตรเคมีทดแทน แต่ขณะนี้ต้องอดทน เพราะไม่มีการลงทุนสร้างโรงกลั่นเพิ่มเติม เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานต์ก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน

“เป้าหมายอีก 8 ปี จะเป็นการพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า ไทยตั้งเป้าผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 1 ใน 3 ของกำลังการผลิต หรือราว 7.25 แสนคันภายในปี 73 เพื่อรักษาศักยภาพการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในเอเชียต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งปัจจุบันมีการปล่อยคาร์บอนอยู่ประมาณ 350 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นภาระของประเทศมูลค่าหลายแสนล้านบาทที่ถูกนำมาไปเป็นต้นทุนจริงที่สร้างภาระต่อการส่งออกในอนาคต

“เราไม่อยากเป็นดีทรอยซ์แห่งเอเชีย แต่อยากเป็นประเทศไทยที่เป็นประเทศไทยจริงๆ เราจึงต้องเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งเอเชียให้ได้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top