ผู้ว่าการเฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในเดือนก.ค. เหตุเงินเฟ้อยังสูง

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก

“ในมุมมองของผมนั้น หากข้อมูลเศรษฐกิจในวันข้างหน้าเป็นไปตามที่ผมคาดไว้ โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อ ผมจะสนับสนุนให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.”

นายวอลเลอร์กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งเมืองดัลลัส

ในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายวอลเลอร์เป็นหนึ่งในกรรมการเฟดที่ออกเสียงสนับสนุนให้คณะกรรมการเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

นายวอลเลอร์กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของเฟดคือการทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แต่ที่ผ่านมานั้น เฟดดำเนินการช้าเกินไปในการจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ และช้าเกินไปในการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) อย่างไรก็ดี เขาเข้าใจว่าคณะกรรมการเฟดต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบระมัดระวัง และสนับสนุนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้ดีเหมือนกับในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

การแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นายวอลเลอร์ยังคงมีจุดยืนในการผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

อย่างไรก็ดี การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นและเร็วขึ้นนั้น ส่งผลให้ตลาดการเงินวิตกกังวลว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยล่าสุดนักวิเคราะห์จากธนาคารโนมูระคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากผลกระทบของการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

“เราคาดว่าเฟดจะยังใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป ขณะที่ผู้บริโภคจะเผชิญกับผลกระทบด้านลบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารและพลังงานที่ย่ำแย่ลง เราเชื่อว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นเพื่อฉุดตัวเลขเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยในไตรมาส 4 ปีนี้” นักวิเคราะห์ของโนมูระกล่าว

ทั้งนี้ โนมูระได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 2565 ลงสู่ระดับ 1.8% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.5% และปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2566 ลงเหลือ 1% จากเดิม 1.3%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top