โบรกฯมองบวกกลุ่ม Tourism -AOT คาดท่องเที่ยวฟื้นเร็วกว่าคาดหลังนทท.แตะ 2 ล้านคน

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ให้น้ำหนัก Overweight กลุ่ม Tourism จากจำนวนนักท่องเที่ยว 1 ม.ค.-26 มิ.ย. แตะระดับ 2 ล้านคน แนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าคาด

จากรายงานข่าวระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยว 1 ม.ค.-26 มิ.ย.แตะระดับ 2 ล้านคน แนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ภาครัฐรายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ม.ค.-26 มิ.ย. 22 อยู่ที่ระดับประมาณ 2 ล้านคน และคาดจะแตะระดับ 10 ล้านคนในปี 2022E หลังจากที่มีการผ่อนคลายนโยบายการท่องเที่ยวมากขึ้น

KTBST มองเป็นบวกสำหรับกลุ่ม Tourism (Overweight) ต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ม.ค.-26 มิ.ย. 22 ที่ระดับ 2 ล้านคน ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวใน 5 เดือนแรกอยู่ที่ 1.3 ล้านคน ทำให้เดือน มิ.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวจะแตะระดับ 7 แสนคน ซึ่งมากกว่าที่เราคาดไว้ที่ระดับ 5 แสนคน และมีโอกาสเป็น upside เพิ่มจากประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวของเราในปี 2565 ที่ 6 ล้านคน

หุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาก-น้อยเรียงตามสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยจากมาก-น้อยคือ ERW (88%), CENTEL (80%), MINT (15%) และ SHR (5%) สำหรับหุ้นกลุ่ม Tourism เรายังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” ชอบ ERW CENTEL, AOT จากประเด็นนี้ เรายังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด”

โดยจากประเด็นนี้ ERW (ซื้อ/เป้า 3.90 บาท) และ CENTEL (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) จะได้ sentiment เชิงบวกมากสุด ขณะที่เรายังชอบ MINT (ซื้อ/เป้า 44.00 บาท) เพราะคาด Q2-Q2/65 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรทุกไตรมาสและจะโตเด่นเหนือกลุ่ม

นอกจากนี้ KTBST แนะ “ซื้อ” บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เป้า 76.00 บาท โดยประเมินไตรมาส 3 งวดปี 65 (เม.ย.-มิ.ย.65) ผลการดำเนินงานปกติจะขาดทุนลดลงเหลือ -2.4 พันล้านบาท ดีขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY, QoQ (ไตรมาส 3 งวดปี 64 ขาดทุน -4.0 พันล้านบาท, ไตรมาส 2 งวดปี 65 ขาดทุน -3.3 พันล้านบาท) โดยได้ผลบวกจากผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เติบโตดีขึ้นมากเป็น 4.0 ล้านคน (+1,574% YoY, +165% QoQ) จากการผ่อนคลายการเปิดประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นมาก เช่นเดียวกับจำนวนผู้โดยสารในประเทศที่ดีขึ้นเป็น 9.5 ล้านคน (+216% YoY, +27% QoQ) และส่งผลให้ผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 13.5 ล้านคน (+317% YoY, +51% QoQ)

ยังคงประมาณการผลการดำเนินงานปกติงวดปี 65 ขาดทุนที่ -1.0 หมื่นล้านบาท (ดีขึ้นจากงวดปี 64 ที่ขาดทุน -1.5 หมื่นล้านบาท) โดยแนวโน้มไตรมาส 4 งวดปี 65 (ก.ค.-ก.ย.65) จะขาดทุนลดลงต่อเนื่อง จากการผ่อนคลายเปิดประเทศและการกระตุ้นการท่องเที่ยว และจะเริ่มพลิกกลับมีกำไรได้ในงวดปี 66 ที่ +6.8 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ยังประเมินจำนวนผู้โดยสารในงวดปี 65 ที่ 45 ล้านคน (+125% YoY), งวดปี 66 ที่ 90 ล้านคน (+97% YoY) และ งวดปี 67 ที่ 135 ล้านบาท (+41% YoY) กลับไปใกล้เคียงช่วงก่อนเกิดโควิด ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +14% ในรอบ 3 เดือน จากการที่หลายประเทศทั่วโลกและไทยได้ลดระดับความเข้มงวดในการเดินทาง ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่ง AOT จะได้ประโยชน์โดยตรง และเรายังคงแนะนำ “ซื้อ” จากจำนวนผู้โดยสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้เร่งปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 งวดปี 65 และพลิกเป็นกำไรได้ในงวดปี 66

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top