จุรินทร์ สั่งพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบราคาสินค้าปลีก-ส่ง ห้ามฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ติดตามนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชนเกี่ยวกับราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยสั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามราคาสินค้าทั้งราคาหน้าโรงงาน ราคาขายส่ง ขายปลีก และให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดติดตามราคาและภาวะสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดอย่างใกล้ชิดทุกวัน รวมถึงประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือให้ร้านค้าปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร รวมถึงไม่ให้มีการกักตุนสินค้า

หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการดูแลราคาสินค้าและบริการระดับจังหวัด กับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเข้าตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และให้รายงานผลการปฏิบัติการให้ทราบทุกวันต่อไป

ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า จากข้อสั่งการของ รมว.พาณิชย์นั้น เพื่อให้การดำเนินการในการติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด การกำกับดูแลการปิดป้ายแสดงสินค้าให้ชัดเจน และห้ามจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควรตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ จึงสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดดำเนินการ ดังนี้

1. จัดชุดเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคา ภาวะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน พร้อมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ตรวจสอบการจำหน่ายและป้องปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าแพงเกินสมควร โดยเฉพาะกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในพื้นที่ และปรากฏตามสื่อ หรือมีเรื่องร้องเรียนให้ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญ

2. รายงานผลการดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ หรือผลการดำเนินคดี (ถ้ามี) กรณีมีข้อร้องเรียนการกระทำความผิดหรือพบการกระทำความผิด ขอให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว ตามแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลให้กระทรวงฯ ทราบทันที

3. ขอให้รายงานผลการติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคเป็นประจำทุกวัน

ทั้งนี้นายจุรินทร์ อยู่ระหว่าง Work from Home หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19 ภายหลังเดินทางกลับมาจากปฎิบัติภารกิจที่ประเทศอังกฤษ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top