สธ. เผยคนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองมากขึ้น ไม่ประมาทแม้อนุญาตถอดหน้ากากได้

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ภายหลังที่ได้มีการประกาศราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 46 ประกาศ เรื่องของการสวมหรือถอดหน้ากากตามความสมัครใจเป็นแบบมีเงื่อนไข

จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล ของกรมอนามัย เรื่อง “แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรค” ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 65 หรือหลังจากการประกาศราชกิจจานุเบกษา พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อเข้าสถานที่ปิด เมื่อใกล้ชิดผู้ป่วย ผู้มีความเสี่ยงสูง หรือร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น เพิ่มขึ้นจาก 89.7% เป็น 91%, ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อสัมผัสวัตถุหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เพิ่มขึ้นจาก 89.8% เป็น 91% และคัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย Antigen Test Kit (ATK) เพิ่มขึ้นจาก 81.4% เป็น 83.5%

ทั้งนี้ แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการให้สวมและถอดหน้ากากตามความสมัครใจได้ แต่ขอแนะนำให้ประชาชนยังคงป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม โดยให้สวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นในสถานที่ที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ รวมทั้งสถานที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี

ส่วนในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มที่หากติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง ได้แก่ กลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์) และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ของโรค

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top