นายกฯ ติดตามความคืบหน้างานในจ.กาญจนบุรี ยันเปิดกว้างรับฟังปัญหาปชช.-ส.ส.ในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เดินทางตรวจติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบเรือนแพและปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งแม่น้ำแควน้อยแควใหญ่ บริเวณ Sky Walk ริมฝั่งแม่น้ำแคว ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาเมืองเก่ากาญจนบุรีและสองฝั่งแม่น้ำแควน้อยแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแพรุกล้ำบริเวณแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อย อาทิ การดำเนินการด้านกฎหมาย การลดมลภาวะทางเสียง การก่อสร้างท่าเทียบเรือ เพื่อรองรับแพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเรือชาวแพที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยบริเวณท่าเทียบเรือริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้วยการสร้างจุดชมวิว Sky Walk เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในตัวเมืองกาญจนบุรี โดยจะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพแม่น้ำสองสีที่ไหลมาบรรจบกันระหว่างแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่เป็นแม่น้ำแม่กลองในพื้นที่บ้านลิ้นช้าง ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ตลอดจนการจัดระเบียบและปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ โดยจัดทำเป็น Walking Street เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้งเป็นพื้นที่สาธารณะ สถานที่พักผ่อนที่มีความปลอดภัยและใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย

นานอกจากนี้ การเดินทางมาจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านทุ่งคูน ซึ่งมีความก้าวหน้าโดยลำดับตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และจะมีการดำเนินการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องต่อไป

นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลอง การกำจัดผักตบชวา ไม่ให้กีดขวางทางน้ำเพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก การดูแลรักษาความสะอาดบ้านเรือนอยู่เสมอเพื่อพร้อมต้อนรับผู้เดินทางมาเยี่ยมเยียน รวมถึงเน้นย้ำการนำศักยภาพด้าน soft power อัตลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นของจังหวัดกาญจนบุรี การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าในท้องถิ่น การท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงเกิดการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้า บริการต่าง ๆ นำมาพัฒนาเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการถนนสายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ซึ่งคาดว่าประมาณปลายปี 25 และปี 66 น่าจะแล้วเสร็จเรียบร้อยตามกำหนด ซึ่งจะช่วยลดเวลาเดินทางได้มากขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมยืนยันว่า อะไรที่ทำให้ได้ก่อนรัฐบาลก็เร่งดำเนินการให้โดยให้อยู่ภายใต้ข้อกฎหมายที่มีอยู่รวมถึงเรื่องของไฟฟ้า โดยรัฐบาลจะดำเนินการขับเคลื่อนทุกจังหวัดให้มีการเจริญเติบโตทุกพื้นที่ ซึ่งตลอดปี 8 ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศไทยมีความเจริญเติบโตโดยได้รับความฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งเรื่องสุขภาพควบคู่กับการทำให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งประเทศไทยดำเนินการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีจนได้รับคำชื่นชมจากต่างประเทศ

นอกจากนี้รัฐบาลยังมุ่งเน้นทำให้ทุกจังหวัดมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนแบบพุ่งเป้า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องของเงินต้นและดอกเบี้ยต่างๆ และในระยะต่อไปก็จะหาแนวทางให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆ ที่ทางจังหวัดกาญจนบุรีเสนอมา เพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เวลาลงพื้นที่ก็จะรับฟังปัญหาจากประชาชนและ ส.ส.ไม่ว่าจะพรรคใดก็ตามว่า มีปัญหาความเดือดร้อนในด้านใดบ้าง นอกจากนี้ การลงพื้นที่ยังได้ติดตามการท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ได้บอกไปแล้วว่าประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากมาย และในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีก็มีทั้งประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว อาหารการกิน การเกษตร ปศุสัตว์ และพบว่าวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดมากขึ้น เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศชาติฟื้นตัวเร็วที่สุด แม้จะมีปัญหาอื่นตามมาแต่รัฐบาลก็จะดูแลกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย โดยตนได้นำบทเรียนแบบอย่างจากต่างประเทศมาดู แล้วถือว่าทำได้มากกว่าประเทศอื่น

“วันนี้ไม่มีอะไรที่จะเปิดอกคุยกับประชาชนอีกแล้ว ผมเปิดอกอยู่ตลอดเวลา รับฟังปัญหาต่างๆ มาเพื่อแก้ไข เพราะผมไม่ใช่ศัตรูกับใคร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top