TTA วางงบปีนี้ 2 พันลบ.เน้นลงทุนธุรกิจใหม่เสริมพอร์ตโฮลดิ้ง คาดผลงาน H2/65 ยังโต

นายคทารัฐ สุขแสวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า บริษัทวางงบลงทุนรวมปีนี้ที่ราว 2,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการลงทุนธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มพอร์ตของธุรกิจโฮลดิ้ง และบางส่วนจะใช้ในธุรกิจปัจจุบันเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้คาดธุรกิจขนส่งทางเรือยังเติบโตในระดับสูง แม้อัตราค่าระหว่างเรือ Baltic Supermax Index อาจปรับลดลงมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมองเป็นการปรับฐาน แต่ยังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากโดยปกติอัตราที่ให้ผลกำไรจะอยู่ที่ประมาณ 12,000-13,000 เหรียญต่อลำต่อวัน

นอกจากนี้ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง โดยรวมก็มี Order book ในมือสูง ทำให้คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก และสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ ธุรกิจขนส่งทางเรือ ทั้งดีมานด์และซัพพลายน่าจะเข้าสู่สมดุล โดยจากการสำรวจของ Clarksons Research คาดว่าปีนี้การเติบโตของการค้าสินค้าแห้งเทกองจะอยู่ที่ 0.1% ในหน่วยของตัน หรือ 1.4% ในหน่วยของตันไมล์ ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลกระทบต่อการส่งออกธัญพืชของยูเครนให้ติดลบไป 4% และการห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียโดยสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อการค้าถ่านหิน 1%

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าในปัจจุบันคาดว่าจะผลักดันให้การค้าถ่านหินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% ในหน่วยตันไมล์ ซึ่งภาพโดยรวมตลาดค่อนข้างจากสมดุลกัน

ส่วนในปี 66 คาดการค้าสินค้าแห้งเทกองจะเติบโต 1.7% ในหน่วยของตัน หรือ 1.9% ในหน่วยของตันไมล์

ด้าน Order book เรือสินค้าแห้งเทกองปัจจุบันอยู่ที่ 7% เมื่อเทียบกับกองเรือทั้งหมด ถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากกำลังการผลิตของอู่ต่อเรือค่อนข้างเต็ม จากมีความต้องการสร้างเรือประเภทอื่นเพิ่มขึ้น และความไม่แน่นอนในการออกแบบเรือให้สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ ประกอบกับความแออัดของท่าเรือยังคงส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปีนี้ ในขณะที่ซัพพลายถือว่ายังขาดแคลน

การเติบโตของกองเรือในปี 65 คาดว่าจะเติบโต 2.4% และเพียง 0.7% ในปี 66 เนื่องจากมีโอกาสในการรีไซเคิลเพิ่มขึ้นท่ามกลางการแนะนำกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ อย่างไรก็ตามโดยรวมการเติบโตของการค้าสินค้าแห้งเทกอง น่าจะสมดุลกับการขยายกองเรือ ส่วนแนวโน้มการเติบโตในอนาคตยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับอาหารและราคาพลังงาน อัตราเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

สำหรับธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง น่าจะยังเติบโตต่อเนื่อง จากแผนการลงทุนของซาอุดิอาระเบียส่วนใหญ่ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยวางแผนที่จะลงทุนประมาณ 5 แสนล้านดอลลาร์บนชายฝั่งทะเลตะวันออกในหลายพื้นที่ ภายในปี 70 ส่วนกาตาร์ก็มีแผนจะลงทุน 27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในน้ำมันและก๊าซ, ตลาดแอฟริกาตะวันตก จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 127 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการลงทุนใต้ทะเล

ส่วนของ TTA ปัจจุบันมี Order book ที่ 358 ล้านเหรียญฯ โดยราว 117 ล้านเหรียญฯ จะได้ทำงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในส่วนนี้มากกว่าครึ่งปีแรก โดยการบริการใต้ทะเล (Subsea Service) จะรักษาระดับ high utilization จากปีนี้ไปจนถึงปี 67 และจะมีการเจาะตลาดแอฟริกา, การวางสายเคเบิล (Cable Laying) ปัจจุบันมีสัดส่วน Order book ในมือที่ 18% โดยเรือที่จะนำเข้ามาใหม่เพื่อใช้ในการวางสายเคเบิลคาดว่าจะมี high utilization รวมถึงการรื้อถอน (Decommissioning) ยังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent crude oil) ในไตรมาส 3/65 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 106 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนอยู่ที่ 71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนธุรกิจอาหาร ร้านพิซซ่า ฮัท (Pizza hut) ไตรมาส 2/65 มีทั้งสิ้น 184 สาขา, TACO Bell มีทั้งหมด 12 สาขา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top