บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการจัดการ OR (ORMC) ครั้งที่ 30/2565 วันที่ 8 สิงหาคม 2565 มีมติอนุมัติให้บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (Modulus) บริษัทย่อยของ OR เข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญเดิมและหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ จำกัด (DF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ดุสิตธานี (DUSIT) ในวงเงิน ไม่เกิน 299.6 ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าลงทุนดังกล่าวจะทำให้ Modulus มีสัดส่วนการถือหุ้น 25% และ กลุ่ม DUSIT ถือหุ้น 75% ของหุ้นสามัญทั้งหมดใน DF
DF เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเน้นธุรกิจอาหารที่มีการเติบโตสูงและเชื่อมโยงกับธุรกิจอาหารของกลุ่มบริษัทในเครือทั้งธุรกิจโรงแรม และสถาบนัการศึกษา
การลงทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR โดยเพิ่มความหลากหลายของการดำเนินธุรกิจอาหาร รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันท้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ Modulus ได้ลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น และสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR เปิดเผยว่า การร่วมกับกลุ่ม DUSIT ลงทุนใน DF ซึ่งดำเนินธุรกิจอาหารที่หลากหลายและมีศักยภาพในการเติบโตในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร ทั้งที่เป็นธุรกิจที่ OR ดำเนินการเองและพันธมิตรที่ OR เข้าไปร่วมลงทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สอดคล้องกับหนึ่งในพันธกิจของ OR ที่มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อเติมเต็มความสะดวกและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันกับผู้ประกอบการแบรนด์ไทยเพื่อการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นเติบโตในแบบ Outside-In โดยแสวงหาโอกาสการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตร
นอกจากนี้ กลุ่ม DUSIT ยังมีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายในด้านการเติบโตร่วมกัน (Economic Prosperity) ของ OR ที่มุ่งสร้างการเติบโต สร้างอาชีพ และกระจายความมั่งคั่งสู่คู่ค้า และผู้ประกอบการขนาดย่อม (MSMEs) ผ่านการดำเนินการร่วมกับพันธมิตรได้เป็นอย่างดี
โดยเป้าหมายการขยายธุรกิจอาหารของ DF คือ การนำความเป็นไทย ไปสู่สากล โดยที่ให้ความสำคัญทั้งในด้านต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจอาหาร ซึ่งรวมไปถึงชุมชนท้องถิ่น OR ยังพร้อมเปิดโอกาสให้ธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด เข้ามาสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจของ OR และมุ่งพลิกโฉมตัวเองให้เป็น Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การเติบโตทางธุรกิจเป็นการเติบโตร่วมกันแบบ Inclusive ที่ผนวกนำโมเดลทางธุรกิจและนวัตกรรมเข้ามาใช้แก้ปัญหาของผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม นางสาวจิราพร กล่าวเสริม
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการสร้างโอกาสเติบโตร่วมกัน โดยอาศัยจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่าย โดย OR มีความเชี่ยวชาญในส่วนของธุรกิจค้าปลีก และเป็นเจ้าของเครือข่าย Retail Platform อันแข็งแกร่งที่สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คนและกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย ผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) เกือบ 2,500 แห่ง และร้านคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) อีกเกือบ 4,000 สาขา ในขณะที่กลุ่มดุสิตธานี เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความชำนาญในด้านธุรกิจการให้บริการชั้นนำของประเทศ และที่ผ่านมาได้เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจอาหารที่เชื่อมโยงกับธุรกิจหลัก มีแนวโน้มการเติบโตสูง และครอบคลุมทุกห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตของธุรกิจอาหารภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานีได้อย่างแน่นอน
“วิสัยทัศน์ของ DF คือ การนำเอเชียไปให้โลกรู้จัก (Bring Asia to the World) โดยที่ผ่านมา เราเลือกลงทุนในธุรกิจอาหารที่เน้นกระบวนการธรรมชาติ ออแกนิก มีสุขภาพที่ดี และช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการลงทุนครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนั้น การที่มี OR มาถือหุ้นใน DF จะเป็นการช่วยต่อยอดขีดความสามารถในการเติบโตในเชิงกลยุทธ์ และการขยายธุรกิจผ่านช่องทางเครือข่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งของ OR
ขณะเดียวกัน DUSIT และ OR ต่างก็เป็นแบรนด์ไทยที่มีความตั้งใจและมีเป้าหมายร่วมกันในการจะช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตของธุรกิจอาหารของไทยให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้และเป็น Growth Engine ตัวใหม่ที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือครั้งนี้มีพลังมากยิ่งขึ้น” นางศุภจี กล่าว
ปัจจุบัน พอร์ตการลงทุนหลักๆ ของ DF ประกอบด้วย บริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการกับโรงเรียนนานาชาติที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 70% ในประเทศไทย บริษัท เดอะ เคเทอเรอร์ส จอยท์ สต็อก จำกัด (The Caterers Joint Stock) หรือ “เดอะ เคเทอเรอร์ส” (The Caterers) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียน และงานเลี้ยงรับรองนอกสถานที่ในประเทศเวียดนาม ร้านอาหาร KAUAI (คาวาอิ) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารสุขภาพยอดนิยมจากประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยและมีแผนจะขยายตลาดเพิ่มในเอเชีย
รวมถึง บริษัท บองชู เบเกอรี่ เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่ “บองชู” (BONJOUR) และโรงงานผลิตเบเกอรี่ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ดีและทันสมัยที่สุดที่นำเข้าจากประเทศชั้นนำในยุโรป ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยปัจจุบัน ร้านแฟรนไชส์ขนมเบเกอรี่บองชู มีสาขาในประเทศไทยกว่า 50 แห่ง รวมถึงในประเทศจีนอีก 1 แห่ง
สำหรับความร่วมมือกับ OR ในครั้งนี้ กลุ่ม DUSIT วางเป้าหมายที่จะทำงานร่วมกับ OR ในการสร้างแพลตฟอร์มด้านอาหาร เพื่อช่วยเหลือคนตัวเล็กในชุมชนและท้องถิ่นให้มีโอกาสเติบโตทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงขยายโอกาสในการเติบโตของพอร์ตด้วยการทำงานร่วมกับ OR และบริษัทอื่นๆ ที่ OR ได้ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่อเมซอน (Café Amazon) รวมถึงร้านอาหารเพื่อสุขภาพโอ้กะจู๋ ซึ่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะต่อไปนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้และความสามารถในการรักษากำไรที่ดีขึ้นให้กับกลุ่ม DUSIT ในอนาคต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 65)
Tags: OR, ดุสิต ฟู้ดส์, ธุรกิจอาหาร, ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก, หุ้นไทย