เงินบาทเปิด 36.88 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์อ่อนค่า รอผลประชุมเฟดกลางสัปดาห์

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.88 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.99 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์ย่อตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร โดยตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์ รวมถึงรอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะส่งสัญญาณของทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ตลาดเชื่อว่าการประ ชุมเฟดรอบนี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะปรับขึ้นมากเพียงใด

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้หลังดอลลาร์ย่อตัวลง ตลาดเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมเฟดและคำแถลง ของประธานเฟดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตก่อน”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 36.80 – 36.95 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (19 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.81864% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.76674%

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 143.10 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 143.49 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0038 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 0.9969 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.937 บาท/ดอลลาร์

– “อาคม” ชี้ Forex-3D ใช้ช่องโหว่กฎหมายหลอกลวงประชาชน สั่งการให้ ธปท. ก.ล.ต. ไปหารือแก้กฎหมายดูแลให้ ครอบคลุม ก.ล.ต.โต้ “ชัยวุฒิ” Forex อยู่นอกเหนืออำนาจดูแล

– ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงกรณีการลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FOREX) ในประเทศไทยถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เนื่องจากประชาชนต้องทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต จาก รมว.คลังเท่านั้น และปัจจุบันยังไม่เคยให้ใบอนุญาตแก่บุคคลทั่วไป

– รัฐบาลวางเป้าหมายสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยให้ภาพรวมปี 66 การท่องเที่ยวของไทยกลับมาอยู่ในสัดส่วนเป็น 80% ของปี 62 หรือก่อนสถานการณ์โควิด-19 คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 1.73 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่าง ประเทศ 9.7 แสนล้านบาท และรายได้หมุนเวียนจากตลาดคนไทย 7.6 แสนล้านบาท และเชื่อว่าหากเป็นไปตามสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ เอื้ออำนวยในทุกด้าน คาดว่าจะมีรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดใน ประเทศ 8.8 แสนล้านบาท

– รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วน 30% ของจี ดีพีของประเทศในปี 70 โดยต่อจากนี้จะเป็นยุคของเว็บ 3.0 ธุรกรรมต่างๆ จะเกิดขึ้นในแพลตฟอร์มเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น เมตาเวิร์ส ซึ่ง เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

– ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.8% ในเดือนส.ค.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ เกือบ 8 ปี โดยบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และเงินเยนที่อ่อนค่าลง

– ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (19 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (19 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

– นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สัญญาทองคำมีแนวโน้มดิ่งลงสู่ระดับ 1,600 – 1,650 ดอลลาร์/ออนซ์ หากเฟดเร่งปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

– นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและพุธนี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่าง มาก – สถาบันวิจัย CFRA ระบุว่า หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% ในการประชุมสัปดาห์ นี้ ก็จะเป็นการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไป และจะฉุดให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลง

– ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 3

– ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ยอดขายบ้านมือ สองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก. ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top