น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 137.94 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจัดทำโครงการจัดเก็บข้อมูลดีเอ็นเอของบุคคลพ้นโทษ พักโทษ จากเรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีฐานข้อมูลดีเอ็นเอของบุคคลพ้นโทษและพักโทษเพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและเชื่อมโยงคดี และเพื่อให้ สตช.เป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลดีเอ็นเอแห่งชาติ สามารถสืบค้นหาผู้กระทำความผิดทางคดีอาญาและอาชญากรรมในประเทศและระหว่างประเทศ และเพื่อเพิ่มศักยภาพระบบฐานข้อมูลดีเอ็นเอให้สามารถรองรับฐานข้อมูลดีเอ็นเอซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื่อมโยงฐานข้อมูลกลางและฐานข้อมูลส่วนภูมิภาคด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง
สำหรับงบประมาณในกรอบวงเงิน 137.94 ล้านบาทจะนำไปดำเนินการดังนี้คือ จัดหาวัสดุในการจัดเก็บดีเอ็นเอและวัสดุหรือน้ำยาในการตรวจดีเอ็นเอจำนวน 45 รายการ สำหรับเก็บข้อมูลดีเอ็นเอจำนวน 100,000 ราย เช่น ก้านสำลีพันปลายไม้ชนิด Sterile, ถุงมือไนโตรชนิดไม่มีแป้ง, น้ำยาโพลีเมอร์หรือสารละลายแอโนดบัฟเฟอร์สำหรับเครื่องวิเคราะห์สารพันธุกรรมแบบอัตโนมัติ และชุดน้ำยาตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลสำหรับจัดทำฐานข้อมูลดีเอ็นเอ เป็นต้น วงเงิน 89.82 ล้านบาท และปรับปรุงระบบเทคโนโลยีฐานข้อมูลดีเอ็นเอ สำหรับจัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ รวม 68 รายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย อุปกรณ์กระจายสัญญาณ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบภายนอก อุปกรณ์ป้องกันเครือข่าย เป็นต้น วงเงิน 48.11 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการเดือน ก.ค.-ก.ย.65
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องและอัตราการกระทำผิดและการกระทำผิดซ้ำจะลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 65)
Tags: DNA, ผู้ต้องขัง, ไตรศุลี ไตรสรณกุล