STI คาดผลงาน H2/65 โตหลังโควิดคลี่คลาย ตุน Backlog 4.8 พันลบ.ดันรายได้โตตามเป้า

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 เริ่มดีขึ้น จากโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้การหยุดการก่อสร้างกระทันหันจะไม่มีอีกแล้ว และวัสดุก่อสร้างก็ส่งมอบได้อย่างราบรื่น จึงไม่มีอุปสรรคในการทำงาน โดยล่าสุดได้มีการส่งมอบงานก่อสร้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และปัจจุบันก็พร้อมจัดแสดงงาน รวมถึงในวันที่ 19 พ.ย.นี้ จะใช้ในการจัดงานการประชุม APEC 2022

นอกจากนี้บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 4,796 ล้านบาท (ณ 6 ก.ย.65 ) ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึง ปี 67 และยังมองโอกาสเข้าประมูลงานเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งจะสนับสนุนให้ Backlog ทำนิวไฮได้ต่อเนื่อง และหนุนรายได้ปีนี้โตตามเป้าหมายที่ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,741.88 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้วที่ 837.08 ล้านบาท

ทั้งนี้งานที่บริษัทดูแลอยู่ ประกอบด้วย งาน Construction Management จำนวน 95 โครงการ, งานออกแบบ (Design) 11 โครงการ, งานศึกษาความเหมาะสม งานออกแบบรายละเอียด งานทบทวนความเหมาะสม และงานเอกชนร่วมลงทุน (PPP) จำนวน 25 โครงการ รวมทั้งสิ้น 131 โครงการ

โดยมีโครงการที่เพิ่งได้รับเข้ามาในไตรมาส 2/65 ได้แก่ โครงการ APAC Tower EKKAMAI Mixed Use ปัจจุบันงานเสาเข็มเสร็จเรียบร้อย กำลังจะขึ้นงานก่อสร้างอาคาร, โครงการ Bangkok Sathorn ออกแบบเสร็จเรียบร้อย ปัจจุบันอยู่ในกระบวนการก่อสร้าง งานเสาเข็ม, อาคารสำนักงาน และอาคารสตูดิโอ อมรินทร์ทีวี คาดจะสามารถส่งมอบงานได้ในปี 66, โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ คาดส่งมอบงานได้ปลายปี 66, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) และงานพัฒนาและบริการจัดการที่พักริมทาง บนถนนทางหลวงพิเศษ หมายเลข 6 และ 81

ส่วนโครงการที่บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ One Bangkok, โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 69, โครงการศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โซน C, โครงการ The Aspen Tree @Forestias คาดส่งมอบงานในปี 66-67, การก่อสร้าง Grande Center Point Surawong และ Grande Center Poin Lumpini, King Bridge Tower

ขณะที่ยังมีโครงการก่อสร้างในกลุ่มของโรงพยาบาลด้วย ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดีศรีอยุธยา คาดว่าเดือนส.ค.66 จะส่งมอบพื้นที่ 8 ชั้นด้านหน้า, โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา อยู่ในขั้นตอนก่อสร้างงานใต้ดิน, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้านงานโรงงานภาคอุตสาหกรรม ก็จะมีงานออกแบบและควบคุมงานอาคารศูนย์วิจัย และพัฒนาแบเตอรี่ มาบตาพุด จ.ระยอง, งานก่อสร้าง Shopee Warehouse ใช้ระยะเวลา 9 เดือน โดยได้ส่งบอกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมกันนี้งานที่ดำเนินงานต่อเนื่องมาในกลุ่มงานโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ งานก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทาง ที่สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6), งานก่อสร้างด่านเก็บค่าผ่านทาง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมถึงงานรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการใน 2 โครงการ คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ใกล้แล้วเสร็จ นอกจากนี้งานรถไฟ ก็มีงานต่อเนื่องมาด้วยกัน 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร

อีกทั้งยังมีงานโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก อีก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระยะที่ 1, โครงการรถไฟ้ความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน, โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ส่วนที่ 1-4) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) และยังมีโครงการก่อสร้างทางวิ่ง Run Way เส้นที่ 3 ท่าอากาศยายสุวรรณภูมิ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top