เงินบาทเปิด 37.85 ให้กรอบวันนี้ 37.75-38.05 ตลาดรอตัวเลขศก.สหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 37.85 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 37.77 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้อ่อนค่า เนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ออก มาสูงเกินคาด ประกอบกับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยสูงและแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุล เงินส่วนใหญ่ ด้านสกุลเงินภูมิภาคค่อนข้างทรงตัว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 37.75 – 38.05 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้อง ติดตามคืนนี้ คือ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ส่วนประเทศจีนช่วงสัปดาห์นี้ (1-7 ต.ค.) เป็นช่วงหยุดยาว ทำให้ตลาดเบาบาง

THAI BAHT FIX 3M (30 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.84610% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.00052%

* ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.78 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 144.28 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9824 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 0.9838 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 37.915 บาท/ดอลลาร์

– ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ชู ‘5 หางเสือ’ ขับเคลื่อน ศก. ห่วงหนี้ครัวเรือนพุ่ง 89% สูงเกินไป เน้นคุมเงินเฟ้อตามเป้า พร้อม ถก กนง.นัดพิเศษ คลังกังวลรายได้วูบ จี้ รบ.ทบทวนเว้นภาษี

– รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน ง.) มั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจจะกลับสู่ปกติภายในปีหน้าจากการฟื้นตัวด้านท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 21 ล้านคน โดยเป็นการฟื้น ตัวแบบ K Shape แต่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อจากราคาพลังงาน และอาหารสด โดยเฉพาะราคาอาหารในห้างสรรพสินค้าที่ปรับขึ้นไปแล้วลด ลงมายาก อย่างไรก็ตามคาดว่าเงินเฟ้อ จะอยู่ระดับสูงสุดในไตรมาส 3/65 และกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมายภายในปี 66

– กรมควบคุมโรคประกาศปรับการรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นรายสัปดาห์ เริ่ม 3 ต.ค.นี้ ขณะเดียวกันจัดระบบ เฝ้าระวังเพิ่มเติม เล็งนำร่อง 8 จังหวัดรวม กทม. ส่วนที่เหลือเลือกจากทุกภูมิภาค เน้นพื้นที่มีกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยงในจังหวัดท่อง เที่ยว มีชุมชนแรงงานต่างด้าว เพื่อเก็บข้อมูลแบบเข้มข้น สำหรับประเมินสถานการณ์หากพบมีการติดเชื้อสูงขึ้น สายพันธุ์ต่างจากเดิม อาจ ยกระดับมาตรการในบางกิจกรรม

– รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรดานักท่องเที่ยวจากเอเชียกลาง ทั้งสาธารณรัฐคาซัคสถานสาธารณรัฐอุ ซเบกิสถาน ต่างนิยมเดินทางมาไทยเพิ่มมากขึ้น หลังจากไทยเปิดประเทศ รวมทั้งครม.ยังเห็นชอบให้ขยายเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวที่มี วีซ่าหน้าด่านหรือวีโอเอ เพิ่มขึ้นจาก 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ตั้งแต่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค.66 โดยล่าสุดพบว่า สายการบินแอร์อัสตา นา จากคาซัคสถาน ได้เปิดเส้นทางบินตรง อัลมาตี้-กรุงเทพฯ วันละ 1 เที่ยวบิน และยังปรับเพิ่มเที่ยวบินอัลมาตี้-ภูเก็ต จากเดิม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์มาเป็นวันละ 1 เที่ยวบิน เริ่มวันที่ 30 ต.ค. นี้

– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย. 65 พบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 124,001.70 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ซื้อสุทธิ 836.79 ล้านบาท นักลง ทุน ต่างประเทศซื้อสุทธิ 150,235.59 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขายสุทธิ 27,070.68 ล้านบาท

– สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียในวันศุกร์ (30 ก.ย.) หลังจากรัสเซียประกาศผนวกดินแดน 4 แคว้น ของยูเครน โดยสหรัฐมุ่งเป้าคว่ำบาตรประชาชนและบริษัทจำนวนหลาย 100 ราย ซึ่งรวมถึงบุคคลในกองทัพและภาคอุตสาหกรรม และ สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัสเซีย

– สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA ของ อังกฤษลงสู่ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) เนื่องจากวิตกว่า แผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ของนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรี จะทำให้หนี้สินของอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น

– สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยในวันศุกร์ (30 ก.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งแตะ 10% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์เฉลี่ยในผลสำรวจความเห็นนัก เศรษฐศาสตร์ที่ระดับ 9.7% และสูงกว่าระดับคาดการณ์ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหาร พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8% ในเดือนก.ย.

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวด อาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นัก วิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนก.ค.

– ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงาน ภาคเอกชน ดัชนี PMI และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่าง งานรายสัปดาห์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 65)

Tags: ,
Back to Top