หุ้นเมตา-สแนปพุ่งแรง รับข่าวกรรมการสื่อสารแนะสหรัฐแบน “ติ๊กต๊อก”

ราคาหุ้นสแนป และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็น 2 บริษัทโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.4% และ 2.2% ตามลำดับในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันอังคาร (1 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC) สนับสนุนให้รัฐบาลสหรัฐแบนการใช้งานติ๊กต๊อก

นายเบรนแดน คาร์ จากพรรครีพับลิกันหนึ่งในคณะกรรมการ FCC ซึ่งนำโดยสมาชิกพรรคเดโมแครตได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวแอกซิออส (Axios) ว่า “ผมไม่เชื่อว่าจะมีทางอื่นที่ดีไปกว่าการแบนติ๊กต๊อก”

อย่างไรก็ตาม การแสดงความเห็นของนายคาร์ซึ่งเป็น 1 ใน 4 กรรมการของ FCC นั้น ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐอาจจะแบนติ๊กต๊อกในไม่ช้านี้

ทั้งนี้ นายคาร์เป็นผู้ที่แสดงออกถึงการต่อต้านติ๊กต๊อกมาโดยตลอด โดยเขาเรียกร้องให้บริษัทแอปเปิลและกูเกิล ลบแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกออกจากแอปสโตร์ของทั้งสองบริษัท เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานชาวสหรัฐ

“ตัวตนที่แท้จริงของติ๊กต๊อกไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น ไม่ใช่แค่แอปแชร์วิดีโอตลกขบขันหรือมีม แต่เป็นสุนัขป่าในคราบแกะ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ติ๊กต๊อกเป็นเครื่องมือสอดแนมที่ก้าวล้ำ ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่อ่อนไหวได้เป็นจำนวนมาก” นายคาร์กล่าว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คณะกรรมการด้านการลงทุนของต่างชาติในสหรัฐ (CFIUS) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐ กำลังทบทวนว่าติ๊กต๊อกปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากการที่ติ๊กต๊อกเป็นธุรกิจในเครือของไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทของจีน

ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างก็วิตกกังวลว่า ติ๊กต๊อกอาจสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ โดยคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลในเรื่องนี้และทบทวนความเชื่อมโยงระหว่างติ๊กต๊อกและไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทของจีน

ทางด้านติ๊กต๊อกยังคงยืนยันว่า ทางบริษัทได้เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานสหรัฐเอาไว้นอกเขตแดนจีน เพื่อจะไม่ต้องส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้กับรัฐบาลจีน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐก็ยังคงไม่มั่นใจกับคำยืนยันของติ๊กต๊อก

ทั้งนี้ โฆษกของติ๊กต๊อกแถลงว่า “นายคาร์ไม่มีบทบาทในการปรึกษาหารือความลับร่วมกับรัฐบาลสหรัฐในกรณีที่เกี่ยวข้องกับติ๊กต๊อก แต่นายคาร์แสดงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะกรรมการ FCC”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 65)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top