หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งลงตามตปท. กลับมากังวลเศรษฐกิจชะลอ-โควิดระบาดในจีน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุนไทยวันนี้แกว่งลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้ยอดค้าปลีกสหรัฐฯออกมาดี แต่เริ่มกลับมากังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และกังวลโควิด-19 ในจีนกลับมาอีกครั้ง กดดันราคาน้ำมันปรับลง และกดดันต่อหุ้นพลังงาน กระทบดัชนีได้บ้าง แต่คลายกังวลประเด็นมิสไซล์ที่ตกในโปแลนด์เป็นระบบป้องกันของยูเครน พร้อมให้แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,610-1,615 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวลดลง แม้ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯจะออกมาค่อนข้างดี แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

ขณะเดียวกันยังมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก และมีผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามากดดันดัชนีในวันนี้ได้บ้าง ส่วนประเด็นมิสไซล์ที่ตกในโปแลนด์ มีความคลายกังวลลงบ้าง หลังนาโตออกมายอมรับว่าเป็นระบบป้องกันของยูเครน โดยให้แนวต้าน 1,630-1,635 จุด แนวรับ 1,610-1,615 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,553.83 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,958.79 จุด ลดลง 32.94 จุด หรือ -0.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,183.66 จุด ลดลง 174.75 จุด หรือ -1.54%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,020.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.32 จุด หรือ +0.11%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,071.60 จุด ลดลง 184.88 จุด หรือ -1.01% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,110.96 จุด ลดลง 9.02 จุด หรือ 0.29%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 พ.ย.65) 1,619.98 จุด ลดลง 9.40 จุด หรือ -0.58%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,375.54 ลบ.เมื่อวันที่ 16 พ.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.(16 พ.ย.) ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 พ.ย.) อยู่ที่ 8.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.76 อ่อนค่าหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่ารับยอดค้าปลีกสหรัฐดีกว่าคาด

– “ไทย” ชงเวทีรัฐมนตรี เอเปควันนี้ ดัน FTAAP บนบริบทหลัง ยุคโควิด สร้างเขตการค้าเสรีใหญ่สุดในโลก หวังที่ประชุมออกแถลงการณ์ร่วมได้ เสนอแผนงาน 4 ปี ตอบสนองการค้า การลงทุนโลกยุคดิจิทัล “สภาธุรกิจเอเปค” หนุนเต็มสูบ หวังตลาด 2.9 พันล้านคน ด้านผู้นำเวียดนามถึงไทยคนแรก “ประยุทธ์” นัดหารือทวิภาคี “มาครง-ฟูมิโอะ” วันนี้

– ผู้นำ-ผู้แทน ทยอยเดินทางถึงไทย นายกฯ เผยการประชุมเอเปกเริ่มแล้ว ประเดิมเป็นประธานประชุมทางวิชาการ หวังร่วมพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย เชื่อมสัมพันธ์เขต ศก.ต่างๆ พัฒนาในทุกมติ ก่อนต้อนรับ ปธน.เวียดนาม พร้อมลงนามแลกเปลี่ยนความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ 5 ฉบับ ตั้งเป้ามูลค่าการค้า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ ม็อบ “ราษฎรหยุด APEC2022” รวมพลลานคนเมือง “ชัชชาติ” ไม่อนุญาตค้างคืนที่ลานคนเมือง หากมีการเคลื่อนขบวนเมื่อไร เป็นหน้าที่ตำรวจดูแล “กอ.รมน.” ตั้งวอร์รูมเกาะติดคุม “เอเปก” เปิด “สายด่วน-ไลน์” แจ้งเหตุผิดปกติ

– ศักดิ์สยาม’ถกใช้งบ’66 กว่า 2 แสนล้าน ขีดกรอบหน่วยงาน-รสก.เบิกจ่าย95% ปิดจ๊อบลงนามโครงการไม่เกินต้นปีหน้า

– 11 โบรกเกอร์บุกร้อง ปอศ. เอาผิด “อภิมุข” พร้อมพวกฐานฉ้อโกงผู้ซื้อ-ขาย หุ้น MORE สร้างความเสียหายมูลค่า 4,500 ล้านบาท บช.ก. สั่งตั้ง 3 ทีมสอบหุ้น พบผู้เข้าข่ายฉ้อโกงแล้ว 21 ราย เตรียมเรียกสอบปากคำ พร้อมสอบเส้นทางการเงิน-ขยายผลคดีปั่นและความผิดอื่น พบผู้เสียหายตั้งแต่ระดับ 100-1000 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับเจอหลักฐานเทรดหุ้น MORE ผิดปกติ รวบรวมข้อมูลได้แล้วกว่า 50% คาด 18 พ.ย. นี้ สรุปเรื่องฟ้องร้องได้ พร้อมเปิดโอกาสให้จำเลยให้ข้อมูลในฐานะพยาน ก่อนระดมหารือเตรียมวางแผนปองกันเหตุซ้ำรอยสัปดาห์หน้า ด้านสมาคมโบรกฯ ระบุ พบบัญชีต้องสงสัยหลัก 10 บัญชี ล่าสุดสั่งระงับถอนเงินก่อ

 

หุ้นเด่นวันนี้

– BCH (ทรีนีตี้) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23.60 บาท 9 เดือนแรกรายงานกำไรสุทธิ 3.67 พันล้านบาท เมื่อหักผลกระทบจากการบันทึกขาดทุนของวัคซีน Moderna, เพิ่มฐานคนไข้ต่างชาติในกลุ่มใหม่ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย ลิเบีย และ CLMV, คาด Q4/65 พลิกกลับเป็นกำไร แต่ปรับตัวลดลง YoY จากฐานที่สูงในช่วง COVID-19 ระบาด แต่คาดรายได้จากกลุ่ม Non-COVID และคนไข้ต่างชาติจะฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง และ Upside จากการบันทึกรายได้ของกลุ่มประกันสังคมโรคภาระเสี่ยง Adj RW ? 2 ของปี 2564

– BANPU (ดาโอ) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท เชื่อกำไรจะยังคงเติบโตโดดเด่น YoY ใน Q4/65 ซึ่งจะหนุนด้วย ASP ที่ทรงตัวในระดับสูง (แม้จะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดของปี) อีกทั้งบริษัทน่าจะมีการรับรู้ hedging loss ลดลง นอกจากนี้ ยังมี upside จากการนำเงินสดในมือที่สูงไปต่อยอดทางธุรกิจได้

– IVL (กรุงศรี) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 54 บาท คลายกังวลข่าวขีปนาวุธตกในโปแลนด์, ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปลดลง 8% สู่ระดับ 113.9 ยูโร/MWh, IVL ประกาศจ่ายปันผล 0.40 บาท XD 29 พ.ย. และจ่ายปันผล 15 ธ.ค.22

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top