หุ้นไทยปิดลบ 5.03 จุด กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน,สถานการณ์โควิดในจีนแย่ลง

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,614.95 จุด ลดลง 5.03 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 59,154.40 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้บรรยากาศเป็นลบทิศทางเดียวกับภูมิภาค รับแรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์สงครามของรัสเซียและยูเครน ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนแย่ลง ตลาดบ้านเรารับแรงขายหลักจากกลุ่ม รพ.-ไฟแนนซ์ แนวโน้มพรุ่งนี้คาดไซด์เวย์ออกข้างไร้ปัจจัยใหม่ ให้แนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,620 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,614.95 จุด ลดลง 5.03 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 59,154.40 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้แกว่งตัวในแดนลบตลอดวัน ดัชนีทำระดับสูงสุด 1,619.05 จุด และระดับต่ำสุด 1,611.28 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 537 หลักทรัพย์ ลดลง 1,138 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 515 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้บรรยากาศการลทุนเป็นลบทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลสถานการณ์สงครามของรัสเซียและยูเครนอาจขยายวงกว้าง แม้ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์ไม่ได้มาจากรัสเซียโดยตรง ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนก็แย่ลง

ตลาดหุ้นบ้านเรารับแรงขายกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคาปรับตัวขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 อาจเริ่มชะลอลง ขณะที่กลุ่มไฟแนนซ์ยังคงได้รับแรงกดดันจากมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อและการกำหนดเพดานดอกเบี้ย ซึ่งนักวิเคราะห์เริ่มออกมาปรับประมาณการผลประกอบการของกลุ่มนี้ลง

ขณะเดียวกันยังมีแรงขายเพื่อที่จะลดความเสี่ยงก่อนที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาต่างๆ จะทยอยออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่เฟดในแต่ละสาขายังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดจะไซด์เวย์ออกด้านข้าง เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน แต่อย่างไรก็ตามแนะนำติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ของไทยที่จะออกมาในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะออกมาดีและช่วยหนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

โดยให้แนวรับที่ 1,610 จุด และ แนวต้าน 1,620 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,339.36 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 1.25 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,979.04 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

BH มูลค่าการซื้อขาย 2,666.78 ล้านบาท ปิดที่ 213.00 บาท ลดลง 16.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,596.74 ล้านบาท ปิดที่ 74.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,373.03 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top