ชาวจีนส่วนใหญ่อาจต้องติดเชื้อโควิด หลังรัฐเริ่มคลายซีโร่โควิด

นายเฟิง จื่อเจี้ยน อดีตรองหัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของจีนเตือนว่า ในท้ายที่สุดแล้วประชากรส่วนใหญ่ของจีนอาจต้องติดเชื้อโควิด-19 หลังจีนเริ่มเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ไปสู่การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนสูงขึ้น

นายเฟิงคาดการณ์ว่า ประชาชนชาวจีนราว 80-90% อาจต้องติดเชื้อโควิด-19 ในท้ายที่สุด พร้อมทั้งยังได้ระบุในการประชุมออนไลน์ซึ่งจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยซิงหวา (Tsinghua University) ในกรุงปักกิ่งว่า “การติดเชื้ออย่างน้อย 1 ครั้ง อาจกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยไม่คำนึงว่าจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการรับมือกับโรคโควิด-19 อย่างไร”

ทั้งนี้ นายเฟิงรับหน้าที่ให้คำปรึกษากับหน่วยงานป้องกันและควบคุมร่วมของจีนเกี่ยวกับวิธีจัดการกับโรคระบาด โดยเขาเป็น 1 ใน 8 ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมหารือกับนางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเธอได้ยกเลิกการระบุถึงนโยบายโควิดเป็นศูนย์เชิงรุก (dynamic zero COVID) และให้คำมั่นว่าจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแนวทางการรับมือกับโรคโควิด-19 ในจีน

นายเฟิงคาดว่า ชาวจีนประมาณ 60% อาจติดเชื้อในระลอกแรกก่อนที่แนวโน้มการติดเชื้อจะชะลอลง เมื่อเทียบกับรายงานการวิเคราะห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แห่งสหรัฐที่เผยแพร่เมื่อเดือนเม.ย.ระบุว่า ประชาชนสหรัฐราว 58% ติดเชื้อโควิดภายในเดือนก.พ.ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 33.5% ในเดือนธ.ค.

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ธ.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top