ITC เปิดเทรดวันแรก 32.75 บาท สูงกว่า IPO 2.34%

ITC เปิดเทรดวันแรก 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท +2.34% จากราคา IPO 32.00 บาท

บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสมหุ้น บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) สำหรับปี 66 ในช่วง 39-42 บาท ประเมินด้วยวิธี PER อิง Prospective PER ที่ระดับ 26-28 เท่า ใกล้เคียงกับ PER เฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 28 เท่า ขณะที่ประเมินอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 62-65 เท่ากับ 26% ต่อปี กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 65 และ 66 คาดราว 1.28 บาท และ 1.45 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมเท่ากับ 39-42 บาทสำหรับปี 66

ITC มีจุดประสงค์ของการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขยายโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการผลิต ลงทุนในระบบคลังสินค้าและติดฉลาก ลงทุนในโรงงานใหม่ในบริเวณเดียวกับโรงงานที่จังหวัดสมุทรสาคร ลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนา (R&D) นวัตกรรม เทคโนโลยี ใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ITC รับจ้างผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกสำหรับแมวและสุนัขทั้งผลิตภัณฑ์ระดับทั่วไปจนถึงระดับพรีเมียม และมีแบรนด์ของตนเองส่งออกไปจำหน่ายใน 45 ประเทศทั่วโลก โดยมีแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของโลกเป็นลูกค้าที่ใช้บริการมายาวนาน 10-20 ปี ลูกค้าเชิงกลยุทธ์รายสำคัญหลัก ๆ เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก เช่น Smucker, Mars และ Aixia สัดส่วนรายได้แบ่งเป็น รายได้จากอาหารแมว 71.8% อาหารสุนัข 12.3% ขนมสำหรับแมว 8.5% ขนมสุนัข 6.9% ณ 30 มิ.ย.65 มีจำนวนผลิตภัณฑ์ 4,809 รายการ กำลังผลิตรวม 1.73 แสนตันต่อปีจากโรงงาน 2 แห่งที่ จ.สมุทรสาคร และ จ.สงขลา

ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินรายได้ ITC จากการขายปี 65 เติบโตราว 37% สู่ระดับ 19,962 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่อง 16% เป็น 23,233 ล้านบาทในปี 66 ปัจจัยสนับสนุนจากความนิยมเลี้ยงสัตว์ประเภทแมวและสุนัขเพิ่มขึ้นในสังคมผู้สูงอายุและครอบครัวที่มีลูกน้อยลงทั้งในไทย สหรัฐ ยุโรป และเอเชีย

ขณะที่ ITC มีสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้ง OEM และแบรนด์สินค้าพรีเมียม ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายใหม่ๆไปยังยุโรปและจีนเพิ่มขึ้น ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 26% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายรวมที่ระดับ 6.3% ลดลงจาก 6.8% ในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายครั้งเดียว และ 7% ในปี 66

ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรปี 65 และ 66 เท่ากับ 4,026 ล้านบาท และ 4,446 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 48% และ 10% ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 62-66 เท่ากับ 27% ต่อปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top