เหตุบึ้มเรือบรรทุกน้ำมัน ล่าสุดดับ 6 เจ้าท่าตั้งกก.สอบ รอผลใน 10 วัน

ภาพ: รอยเตอร์

นายชยพัทธ์ สุวรรณาราม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุดเหตุเพลิงไหม้และระเบิดบนเรือสมูทซี 22 พบผู้เสียชีวิตขณะนี้ 6 ราย โดยยังมีผู้สูญหายอีก 2 ราย ซึ่งทีมนักประดาน้ำ กำลังอยู่ระหว่างการเร่งค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ

“เมื่อวานพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนวันนี้พบเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 6 ราย…ตอนนี้เน้นการค้นหาผู้สูญหาย” รองนายกฯ อบต.แหลมใหญ่ กล่าวกับ “อินโฟเควสท์”

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจนของการระเบิด และเกิดเพลิงไหม้ของเรือสมูทซี 22 ที่แน่ชัด ยังอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

ส่วนกรมเจ้าท่า ได้ออกหนังสือคำสั่งระงับใช้เรือสมูทซี 22 รวมทั้งออกหนังสือคำสั่งห้ามใช้ท่าเรือ อู่เรือ รวมมิตรด็อกยาร์ด ตลอดจนออกหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าให้ข้อเท็จจริง ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสงคราม ในวันนี้ เวลา 14.00 น. พร้อมทั้งออกหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุต่อไป

โดยเบื้องต้นกรมเจ้าท่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ ภายใน 10 วัน โดยจะมีการสอบสวนคนประจำเรือ และเจ้าหน้าที่ safety ของอู่เรือ และผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง อันส่งผลให้เกิดเหตุระเบิด ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ด้านนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม แถลงสรุปสถานการณ์กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บนเรือสมูทซี 22 เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ว่า จากกรณีเหตุเรือบรรทุกน้ำมันสมุธซี 22 ระเบิด ขณะจอดซ่อมอยู่เรือได้เกิดเพลิงไหม้ และมีการระเบิดเกิดขึ้น (อยู่ระหว่างการพิสูจน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) บริเวณท่าเทียบเรือ ของบริษัท รวมมิตรด็อกยาร์ด จำกัด และได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานกลึงและเชื่อมโลหะ ตำบลแหลมใหญ่ อำเภอมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เขตพื้นที่ อบต.แหลมใหญ่

ข้อมูลเบื้องต้น น้ำหนักเรือ 2,996 ตันกรอสส์ แจ้งเข้าอู่ซ่อมเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 66 ในเรือมีน้ำมันเตาและดีเซลคงค้าง มีลูกเรือ 17 คน (ไม่ได้รับบาดเจ็บ) ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นช่างเชื่อมบนเรือ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า โดยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 ราย สามารถกลับบ้านได้แล้ว 1 ราย

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ เพื่ออำนวยการสั่งการฯ และสามารถควบคุมเพลิงได้เมื่อเวลา 15.30 น. ด้านความเสียหายเบื้องต้นที่มีผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียน พบว่า มีบ้านเรือนในพื้นที่ตำบลแหลมใหญ่60 หลังคาเรือน, ตำบลบางจะเกร็ง จำนวน 11 หลังคาเรือน พร้อมทั้งจะมีการสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top