Zoom In: จุดพลุ! หุ้นดาวเด่นธีม “เลือกตั้ง Play” รับเหมา-อสังหา-ค้าปลีก-Farm Income

ใกล้เข้ามาแล้วกับอีเวนท์ใหญ่แห่งปี คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีนี้ หลังรัฐบาลประกาศไทม์ไลน์เลือกตั้งภายในวันที่ 7 พ.ค.นี้

นักลงทุนก็คงจะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ทางการเมืองกันไปบ้างแล้ว ช่วงนี้ก็น่าจะอยู่ในช่วงไฮไลท์สำคัญ คือ การโปรโมทนโยบายหาเสียงของบรรดาพรรคการเมืองที่เรียงหน้านำเสนอเพื่อสร้างกระแสความฮือฮา ชิงพื้นที่สื่อออกมากันอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นนโยบายประชานิยมดึงดูดคะแนนเสียงจากฐานเสียงระดับรากหญ้าที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ หลังจากพรรคเพื่อไทยสร้างความฮือฮาด้วยค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ลุงป้อม แห่งพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาประกาศนโยบายบัตรประชารัฐฯ 700 บาท และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สานต่อประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น

จากกระแสเลือกตั้งในครั้งนี้ก็น่าจะเข้ามาสร้างแรงหนุนต่อตลาดหุ้นและกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ “อินโฟเควสท์” ได้รวบรวมหุ้นดาวเด่นที่นักวิเคราะห์แนะนำไว้ ดังนี้

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า หุ้นที่จะได้ประโยชน์เกี่ยวกับการเลือกตั้งมากที่สุด จะเป็นหุ้นที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนเป็นหลัก

กลุ่มแรกมองหุ้นนิคมอุตสาหกรรม อย่าง บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA)

ถัดมามองเป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD)

และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บมจ.แสนสิริ (SIRI), บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)

รวมถึงหุ้นโรงพยาบาล ชอบ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9)

อีกทั้งมองบวกหุ้นกลุ่ม Farm Income ได้แก่ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL), บมจ. คาราบาวกรุ๊ป (CBG), บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT), บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) และบมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR)

ทั้งหมดนี้ เลือก AMATA, SC, STEC เป็นหุ้นดาวเด่น

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นดาวเด่นสำหรับธีมเลือกตั้ง ได้แก่ บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) โดยคาดว่าหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น รัฐบาลจะหันมาเร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

ถัดมาให้หุ้นกลุ่มค้าปลีก ได้แก่ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL), บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) และบมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) จากเม็ดเงินไหลเข้าระบบมากขึ้น ส่งผลให้การบริโภคภายในดีขึ้น และยังได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วย

และกลุ่มสุดท้ายให้หุ้นธนาคารพาณิชย์ อย่าง ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เนื่องจากคาดว่าจะได้ประโยชน์จากสินเชื่อขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (GDP) และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่จะลดลงด้วย

แนะนำสำหรับราคาหุ้นปัจจุบันหลายตัวปรับขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว ควรรอจังหวะย่อตัวลง และค่อยเข้าไปเก็บ

ด้าน บล.เอเซีย พลัส ให้ Top pick หุ้นเด่นธีมเลือกตั้ง เลือกหุ้นราคา Laggard (ตั้งแต่ต้นปี 64 ถึงปัจจุบันยังให้ผลตอบแทนติดลบ) และ Valuation ดี (Upside > 0) คือ บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR), บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC), บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR),บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH), บมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top