นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้ไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนจับตารายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า และตลาดเข้าสู่โหมด risk-off หลังประธานเฟดยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ประกอบกับแรงกดดันต่างชาติเทขายหุ้นไทย หลังผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนออกมาน่าผิดหวัง ส่งผลดัชนีพักตัว ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวลง พร้อมให้แนวต้าน 1,675-1,680 จุด แนวรับ 1,660-1,665
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อรอดูปัจจัยสำคัญการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์หน้า
ประกอบกับภาพของตลาดที่นักลงทุนกลับมาเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยง (risk-off) อีกครั้ง หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติออกมาค่อยข้างมาก หลังจากที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่น่าผิดหวัง ทำให้ยังคงเป็นแรงกดดันดัชนีพักตัว ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ปรับตัวลง
ให้แนวต้าน 1,675-1,680 จุด แนวรับ 1,660-1,665 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 ก.พ.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,949.01 จุด ลดลง 207.68 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,117.86 จุด ลดลง 46.14 จุด หรือ -1.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,910.52 จุด ลดลง 203.27 จุด หรือ -1.68%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,453.40 จุด ลดลง 153.06 จุด หรือ -0.55%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 21,154.25 จุด ลดลง 129.27 จุด หรือ -0.61% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,227.73 จุด ลดลง 4.38 จุด หรือ -0.14%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.พ.66) 1,670.34 จุด ลดลง 10.15 จุด (-0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 60,522.85 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,973.07 ลบ.เมื่อวันที่ 8 ก.พ.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 78.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.พ.) อยู่ที่ 8. 05 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.50 อ่อนค่า หลังจนท.เฟดหนุนขึ้นดอกเบี้ยดันดอลลาร์แข็งค่า
– “แบงก์-นอนแบงก์” คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสะพัด “เคทีซี-กรุงศรี” คาด 2 เดือนแรกปีนี้ โตระดับ 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุเศรษฐกิจขยายตัว-ท่องเที่ยวฟื้น-มาตรการช้อปดีมีคืน ด้าน “ทีทีบี” หวังไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นกว่า 15% หลังจับมือพันธมิตรทำแคมเปญ ส่งเสริมการขาย
– “สรรพากร” ตั้งทีมต้อนแม่ค้าออนไลน์ไลฟ์สดขายของ-อินฟลูเอนเซอร์-ยูทูบเบอร์ เข้าระบบภาษี ฟุ้งปีงบ 65 พรึ่บ 2 แสนราย โชว์ผลงาน 4 เดือนรีดรายได้ทะลุเป้า 6 หมื่นล้านบาท มั่นใจทั้งปีรีดภาษีฉลุยตามเป้าหมาย 2.2 ล้านล้านบาท
– “ประยุทธ์” ปิดประตูนิรโทษกรรม ลั่นคนหนีคดีต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม “สนธยา” นำทีมบ้านใหญ่ชลบุรีซบ “เพื่อไทย” มั่นใจชนะยกจังหวัด งัดมติครอบครัวไม่แยกกันเดิน “อิทธิพล” จ่อสมทบภายหลัง บ้านใหญ่ “สระบุรี” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร พปชร. จ่อเปิดนโยบายแก้จน 10 ก.พ.
หุ้นเด่นวันนี้
– NSTC (ฟินันเซียไซรัส) บมจ. นิวทริชั่น เอสซี เข้าเทรดวันแรก ราคา IPO ที่ 26.25 บาท คาดกำไรปี 65 -15% Y-Y ก่อนพื้นตัวแรง +48% Y-Y ในปี 66 ส่วนเงินทุนจะนำมาขยายสายการผลิตส่วนผสมเพิ่ม และเครื่องผลิตสินค้า OEM ซึ่งจะเริ่มส่งผลบวกในปี 67-68 ประเมินราคาเป้าหมาย 32 บาท
– AOT (ดาโอ) แนะนำ ซื้อ เป้าเชิงกลยุทธ์ 76.00 บาท นักท่องเที่ยวทั่วโลกและจีนฟื้นตัวกลับมาเร็วกว่าคาด หนุนผลประกอบการ คาดรายได้รวมปี 66 โตเด่น +155%YoY ที่ 4.23 หมื่นล้านบาท หน่วยงานรัฐตั้งเป้านักท่องเที่ยว 25-30 ล้านคน AOT ได้ประโยชน์ชัดเจน, รายได้จาก Duty Free จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ลูกค้าต้องทยอยจ่าย Minimum guarantee หนุนรายได้จากธุรกิจ Non-Aero ให้ฟื้นตัวต่อ
– GULF (หยวนต้า) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62.25 บาท คงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ โดยผลของราคาก๊าซปรับตัวลงกระทบประมาณการกำไรของโครงการ Jackson 54% และประมาณการกำไรทั้งปีลดลง 8%, โครงการลมในเวียดนามอยู่ระหว่างเจรจาค่าไฟ แต่กรณีแย่สุดหากเจรจาไม่ได้บริษัทจะยังทำเองต่อ เนื่องจากยังพอมีกำไรถึงคุ้มทุนได้ ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปแล้วแต่ยังไม่สะท้อนปัจจัยบวก เป็นโอกาสเข้าสะสมอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย