หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าอ่อนตัวตามภูมิภาค รับแรงกดดัน GDP ต่ำคาด-ราคาน้ำมันลง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนตัวลงเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ยังถูกกดดันจาก GDP ไทยที่ต่ำกว่าคาด และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดของปีนี้ หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,660-1,665 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดอ่อนตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยยังคงถูกกดดันจาก GDP ประเทศไทยที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ มีการปรับเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลง ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงต่อเนื่อง ทำให้กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ได้ปรับตัวขึ้นทำ

ระดับสูงสุดของปีนี้ เป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่ในวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

ให้แนวรับไว้ที่ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,660-1,665 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,826.69 จุด เพิ่มขึ้น 129.84 จุด หรือ+0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,079.09 จุด ลดลง 11.32 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,787.27 จุด ลดลง 68.56 จุด หรือ -0.58%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,497.13 จุด ลดลง 16 จุด หรือ -0.6%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,681.47 จุด ลดลง 38.34 จุด หรือ -0.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,230.47 จุด เพิ่มขึ้น 6.45 จุด หรือ +0.2%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.พ.66) 1,651.67 จุด ลดลง 6.62 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 53,413.46 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,867.09 ลบ.เมื่อวันที่ 17 ก.พ.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. (17 ก.พ.)ร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ หรือ 2.74% ปิดที่ 76.34 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.2% ในรอบสัปดาห์นี้

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.พ.) อยู่ที่ 5.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.46 แข็งค่าเล็กน้อยตามทิศทางภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 34.30-34.60

– “คลัง” โชว์ผลการจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกปีงบ 66 ทะยาน 8.36 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 9.1 หมื่นล้านบาท อานิสงส์รีดภาษีเงินได้นิติบุคคลบูม แจงกู้ชดเชยขาดดุลแล้ว 2.47 แสนล้านบาท พร้อมอวดเงินคงคลังอู้ฟู่ 3.38 แสนล้านบาท

– ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.ก.คุมภัยไซเบอร์ เตรียมประกาศใช้เร็วๆ นี้ ให้อำนาจผู้เสียหาย-แบงก์อายัดบัญชี ระงับธุรกรรมต้องสงสัยได้ทันทีเป็นการชั่วคราว เพิ่มโทษชวนเปิดบัญชีม้าคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท

– ที่ดินแปลงใหญ่ ลิสโฮด์-ฟรีโฮลด์ กลางใจเมืองเดือด บิ๊กเนมปัดฝุ่นนำออกพัฒนา รับเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว เซ็นทรัลกรุ๊ป ลุยตอกเข็ม ‘เอ็มบาสซี 2’ เมษาฯนี้ ขณะที่ทำเลทองหลายแปลงพาเหรดพลิกโฉมสู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยว-ลงทุน ดันราคาที่ดินพุ่งปรี๊ด!

– “หอการค้า” เตรียมผนึกอีอีซีปักหมุดโรดโชว์จีน Q2 ก่อนเลือกตั้งจีบทุนจีนฟื้นเศรษฐกิจ ชูโมเดลรัฐ-รัฐเจาะรายมณฑล หวังดูดเม็ดเงินปั๊มจีดีพี 3.8% ชงรัฐช่วยเอกชนลดต้นทุนค่าไฟฟ้า-แรงงานขาด-ค่าแรงแพง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้อุตสาหกรรมแห่งอนาคต “แพลนต์เบส ไบโอเบส พลังงานหมุนเวียน ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน” มีโอกาสดึงดูดลงทุนสูง แนะรัฐวางธีมสร้างสตอรี่เพิ่มความเชื่อมั่น

หุ้นเด่นวันนี้

– ADVANC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 250 บาท ผลประกอบการยังเติบโตจากการแข่งขันที่ลดลงคาดกำไรสุทธิปีนี้ 27,919 ล้านบาทโต 7% และดักซื้อรับปันผล 4.24 บาทขึ้น XD 22 ก.พ. นี้ ให้ Dividend yield 2%

– HENG (กสิกรไทย)”ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 3.6 บาท รายงานกำไรไตรมาส 4/65 ที่ 208 ลบ. (+113% QoQ และ +58% YoY) สูงกว่าที่เราคาดไว้ 12% จาก ECL และ Opex ที่ลดลง PPOP สูงกว่าคาดเล็กน้อย สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง YoY ที่ 31% ในไตรมาส 4/65 และผลตอบแทนสินเชื่อสูงขึ้นลดผลกระทบต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในไตรมาส 4/65 อัตราส่วน NPL ทรงตัว และสินเชื่อจัดชั้นที่ 2 ลดลงจากไตรมาส 3/65

– AWC (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.30 บาท แนวโน้มผลผลการดำเนินงานปกติ ไตรมาส 4/65 ฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย โดยคาดว่าจะเห็นยอดการจองห้องพักและอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) เพิ่มมากขึ้น ขณะที่การให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกและสำนักงานฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ส่วนแนวโน้มปี 66 จะได้แรงหนุนจาก Pent Up Demand จากลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ MICE รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังจากที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด โดยจะมีโรงแรมเปิดใหม่ 4 แห่ง ขณะที่ RevPar เข้าใกล้ช่วง Pre-Covid

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 66)

Tags: , ,
Back to Top