บล.พาย ให้กรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,630-1,665 จุด ส่งออกเด่นรับบาทอ่อน-Domestic Play ยังน่าสนใจ

บล.พาย (Pi) ประเมิน SET สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,665 จุด กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นถือครองเงินสดสูง

หุ้นแนะนำเน้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ กลุ่มส่งออก (ASIAN TU) ผลบวกค่าเงินบาทอ่อนค่า Domestic Play ที่เกี่ยวข้องกับการบริการอาหารและท่องเที่ยว (BJC CRC CPALL) (AOT CENTEL ERW MINT SPA) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF RATCH) โรงพยาบาล (BCH BDMS CHG)

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท) ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในไตรมาส 4/22 และปี 66 คือ จำนวนลูกค้าในร้านที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง, การใช้จ่ายสูงขึ้นช่วงการแข่งขันบอลโลก และมาตรการกระตุ้นภาครัฐเพิ่มเติมก่อนไทยเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยเราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/66 จะโตขึ้น YoY และ QoQ จากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ

BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท) ประเมินอัตราการเติบโตของกำไรที่ 58% ในปี 65 ด้วยอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่สูงขึ้นเป็น 14.5% ส่วนในปี 66-67 แม้คาดการเติบโตที่ชะลอลงเป็น 10%-8% YoY แต่ยังอยู่ในแดนบวก ด้วยกำไรปกติที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 1.74 เท่า 1.87 เท่า พร้อมกับ ROE ที่ราว 15% ในปี 66-67

บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวก 0.4% ในขณะที่ NASDAQ ปรับลง 0.58% หลักๆ แล้วนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.5% กังวลต่ออุปสงค์ที่จะหายไปจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะกดดันภาวะเศรษฐกิจ

ขณะที่วันศุกร์ที่ผ่านมาสภาพัฒน์าการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงาน GDP ไตรมาส 4/65 ขยายตัวเพียง 1.4%YoY ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3.6%YoY โดยการบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีราว 5.7%YoY หลักๆเป็นผลจากการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัวต่อเนื่อง (อาหาร) ขณะที่การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนชะลอตัวลงตามการซื้อยานพาหนะ ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาลติดลบ 8%YoY หลักๆผลจากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ลดลง

การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.5%YoY แต่การก่อสร้างที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงและการก่อสร้างอาคารเชิงพาณิชย์หดตัว 5.5%YoY ส่วนด้านเครื่องมือเครื่องจักรขยายตัว 5.1%YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาส 3/65 ที่ 14%YoY ชะลอลงทุกกลุ่มสินค้าทุนทั้งยานพาหนะและเครื่องจักรอุตสาหกรรม ขณะที่การส่งออกหดตัว 10.5%YoY ลดลงทุกประเภทสินค้าทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอของคู่ค้า

อย่างไรก็ตาม ส่งออกบริการขยายตัวเด่น 94.6%YoY ผลจากการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยสรุปแล้วมองหุ้นค้าปลีกเกี่ยวข้องกับอาหารได้ประโยชน์ อาทิ (BJC CRC CPALL) ร้านอาหารและท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SHR SPA)

ส่วนสัปดาห์นี้ติดตาม 1.ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของ EU ในวันอังคาร 2. ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในวันอังคารเช่นกัน Bloomberg คาดที่ 4.09 ล้านหลังคาเรือน 3. ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯในวันศุกร์ Bloomberg ประเมินที่ 6.2 แสนหลังคาเรือน 4. ในประเทศติดตามผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top