READY ปิดเทรดวันแรกที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.70 บาท หรือ +105.48 % จากราคา IPO ที่ 7.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,030.30 ล้านบาท จากราคาเปิด 10.70 บาท ราคาสูงสุด 16.00 บาท ราคาต่ำสุด 10.40 บาท
บล.ทิสโก้ ประเมินบมจ.เรดดี้แพลนเน็ต (READY) ว่าผลประกอบการที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการทำการตลาดที่ลดลงในช่วงของ COVID โดยเฉพาะในกลุ่มของธุรกิจโรงแรม ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการของ READY จะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้จากการกลับมาทำการตลาดที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจในทุกขนาด
แต่ READY ยังมีความเสี่ยงจากการขายหุ้นของกลุ่ม Darlex ที่มีการขายหุ้นออกมาแล้ว 20 ล้านหุ้นและมีความเสี่ยงที่จะขายออกมาเพิ่ม (คงเหลือราว 8.7 ล้านหุ้น)
ราคา IPO คิดเป็น PER ราว 32 เท่าเทียบกับกลุ่ม MAI TECH ที่ 51.8 เท่า และธุรกิจที่ประกอบธุรกิจเป็น SaaS เช่น NETBAY มี PER 35 เท่าจะคิดเป็นมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นราว 7.45 บาท (แต่ในเชิงความสามารถในการทำกำไร READY ต่ำกว่า NETBAY มาก)
READY ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว (All-in-One Sales and Marketing Platform) ที่ครอบคลุมด้านเว็บไซต์ (Website) โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising) และระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management – CRM) รวมถึงการให้บริการแพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลเฉพาะกลุ่ม ได้แก่ แพลตฟอร์มการจองโรงแรมโดยตรง (Hotel Direct Booking Platform)
โครงการในอนาคต : 1) ใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ (แพลตฟอร์ม Readyplanet All-in-One) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและคุณสมบัติในการทำงาน (Functions & Features) ของแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียวของบริษัทฯ ให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาธุรกิจอย่างจริงจัง 2) ใช้สำหรับขยายทีมขายและทีมการตลาด ในการหาลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) เพื่อขยายฐานลูกค้า และ นำเสนอบริการเพิ่มจากฐานลูกค้าปัจจุบัน (Up-selling & Cross-selling)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 66)
Tags: READY, ตลาดหุ้น, หุ้นไทย, เรดดี้แพลนเน็ต