“วิษณุ” ปัดคืนตำแหน่งเลขาศอ.บต.ให้ “พล.ร.ต.สมเกียรติ” โยงการเมือง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการคืนตำแหน่งให้ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร กลับมาเป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยยืนยันว่า การยกเลิกคำสั่งโยกย้ายเพื่อคืนตำแหน่งเดิมให้นั้น ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ก.พ. 2566 ได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งโยกย้าย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. มาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายวิษณุ ระบุว่า ในการโยกย้ายให้มาดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อรอรับตำแหน่งอื่น ในระดับ 11 และในการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต้องใช้ระยะเวลา จึงให้ย้ายกลับมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.จนเกษียณอายุราชการในปีนี้

ส่วนการโยกย้ายไป-มาจะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือไม่นั้น นายวิษณุ ชี้แจงว่า หลายกรณีก็เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ที่มีการโยกย้ายออกมาแล้ว แต่ให้กลับเข้าไปดำรงตำแหน่งใหม่ แตกต่างจากการขอโปรดเกล้าฯ โยกย้ายอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ปยป.) จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต้องมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้ รัฐบาลมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเดิม เพื่อไม่ต้องมีการโปรดเกล้าใหม่

อีกทั้งขณะนี้เป็นช่วงปลายอายุราชการ จึงให้กลับเข้าตำแหน่งปฏิบติหน้าที่จนเกษียณอายุ และรัฐบาลชุดใหม่ อาจพิจารณาโยกย้ายอีกก็ได้ จนถึงเดือนกันยายนนี้ หรือหากระหว่างนี้มีตำแหน่งว่าง ก็อาจจะมีการโยกย้ายไปได้เช่นกัน เพื่อความเหมาะสม

ส่วนกรณีกระแสข่าวจะมีการโยกย้ายนายปกรณ์ นิลประพันธ์ จากเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้มีการเสนอเรื่องให้มีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งการเปลี่ยนตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแม้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ก็จะต้องส่งเรื่องไปขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย และถ้าจะมีการเปลี่ยนตัวตอนนี้ ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มี.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top