ทำเนียบขาวจับตา “เฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์” เตรียมพร้อมรับมือวิกฤตการณ์

นางแครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) ว่า ทำเนียบขาวยังคงติดตามสถานการณ์ของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) ซึ่งเป็นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ หลังมีรายงานว่าลูกค้าของ FRB แห่ถอนเงินออกมาอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ พร้อมกับให้คำมั่นว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมใช้มาตรการเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น

นางฌอง-ปิแอร์กล่าวว่า ขณะนี้ยอดเงินฝากของธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งเริ่มมีเสถียรภาพ และคณะบริหารของปธน.ไบเดนสามารถใช้เครื่องมือชนิดเดียวกับที่เคยใช้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดด้านการเงินหากจำเป็น

“หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ มีความเห็นตรงกันว่า ระบบธนาคารของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง หลังจากรัฐบาลออกมาตรการที่เด็ดขาดและมีประสิทธิภาพในเดือนที่แล้ว เพื่อปกป้องเงินฝากของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) รวมทั้งจัดหาสภาพคล่องให้กับตลาด”

“ที่ผ่านมา เราได้ใช้เครื่องมือสำคัญที่สามารถสร้างเสถียรภาพในระบบธนาคารได้อย่างรวดเร็ว และเราจะใช้เครื่องมือเหล่านี้อีก หากจำเป็น โดยขณะนี้เรากำลังจับตาสถานการณ์ของธนาคาร FRB อย่างใกล้ชิด” นางฌอง-ปิแอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาหุ้น FRB เริ่มฟื้นตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) หลังจากราคาหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักก่อนหน้านั้น อันเนื่องมาจากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงินออกมาเป็นจำนวนมากในไตรมาส 1 ปีนี้

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องปรับลดการประเมินสถานะของ FRB หรือ Camels Rating ซึ่งเป็นระบบการจัดอันดับความแข็งแกร่งของธนาคารที่ประเมินโดยบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) โดยการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ FRB ถูกจำกัดความสามารถในการกู้ยืมเงินจากโครงการ “Bank Term Funding Program” ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

เฟดประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินจากผลกระทบของการล้มละลายของธนาคาร SVB โดยโครงการดังกล่าวจะเสนอเงินกู้อายุ 1 ปีให้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าสถาบันการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับเงินกู้จากโครงการดังกล่าวนั้น จะต้องยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top