เอสเตติก คอนเนค ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 90 ล้านหุ้น เข้า mai

บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.71% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขาย IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจบริการ (Service) โดยบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อนำเงินไปการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) ประกอบกิจการสถานพยาบาลด้านคลินิกเวชกรรมภายใต้ชื่อ “ธีรพรคลินิก” เพื่อให้บริการศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแก่บุคคลทั่วไป เช่น การผ่าตัดดึงหน้า(Face-Lock) การผ่าตัดตาสองชั้น การผ่าตัดเสริมจมูก และบำรุงผิวพรรณ เป็นต้น ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี นำโดยนายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มายาวนานกว่า 40 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

โดยการให้บริการ แบ่งเป็น 3 บริการ

1. บริการหัตถการเกี่ยวกับผ่าตัด ได้แก่ ศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Face-Lock), ศัลยกรรมผ่าตัดตา , ศัลยกรรมผ่าตัดจมูก และศัลยกรรมส่วนอื่นๆ

2. บริการให้ยาระงับความรู้สึกทางหลอดเลือดดำ

3. บริการที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด

โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 กลุ่มครอบครัวจิรยั่งยืน ถือ 88.27% หลังขายหุ้น IPO ลดลงเหลือ 65.57%, ส่วนที่เหลือ ได้แก่ นายสิทธวีร์ เกียรติชวนันท์ ถือ 1.54% เหลือ 1.14%, นางพิมพ์เพ็ญ ดีพันธุ์พงษ์ ถือ 1.54% เหลือ 1.14%

ในปี 2563 – 2565 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 221.56 ล้านบาท 427.64 ล้านบาท และ 853.64 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 93.01% และ 99.61% ตามลำดับ โดยบริษัทมีผลการดำเนินการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทมีการให้บริการอย่างมีคุณภาพด้วยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทส่งผลให้บริษัทมีชื่อเสียงและมีผู้มาใช้บริการมากขึ้น

ส่วนกำไรสุทธิในปี 2563 – 2565 บริษัทมี 37.15 ล้านบาท 112.68 ล้านบาท และ 270.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ16.76% 26.34% และ 31.64% ตามลำดับ โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิมาจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 คลี่คลายลง และประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 3 และ 4 มากขึ้น ประกอบกับในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 บริษัทมีการทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจังทำให้ผู้ใช้บริการได้ศึกษาและรู้จักบริษัทมากขึ้น รวมถึงแพทย์และพนักงานของบริษัทได้พัฒนาคุณภาพการให้บริการทุกระดับ ทำให้มีผู้มาใช้บริการมากขึ้น

บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี (ถ้ามี)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top