ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นักลงทุนจับตาปัจจัยการเมือง-เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐและการเลือกตั้งรอบสองในตุรกี รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งจะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจโลก

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.18 จุด หรือ +0.25% หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในการซื้อขายระหว่างวัน
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,418.21 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.05%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,917.24 จุด เพิ่มขึ้น 3.42 จุด หรือ +0.02% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,777.70 จุด เพิ่มขึ้น 23.08 จุด หรือ +0.30%

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ ในเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังรอดูท่าทีว่าธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนานเพียงใดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าอาจจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3.75% แล้วนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาถึงปี 2568 จึงจะลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%

ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาค้าส่งของเยอรมนีลดลงเล็กน้อยในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสวีเดนปรับตัวลงมากกว่าคาดในเดือนเม.ย. ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนลดลงเกินคาดในเดือนมี.ค. ขณะที่ผลผลิตสินค้าทุนร่วงลง

นักลงทุนจับตาการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

หุ้นธนาคารบีบีวีเอของสเปนซึ่งทำธุรกิจส่วนใหญ่ในตุรกี ร่วงลง 4.2% หลังจากตุรกีต้องทำการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสอง หลังจากที่ไม่มีผู้สมัครได้รับเสียงส่วนใหญ่

การเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นแอกซ่าซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของยุโรป ปรับตัวขึ้น 2.4% หลังจากเปิดเผยเงินทุนสำรองไตรมาสแรกที่สูงเกินคาด

หุ้นอีโวเทคซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ พุ่งขึ้น 4.7% หลังเปิดเผยว่าบริษัทจะกลับเข้ารวมในการคำนวณดัชนี MDAX ของเยอรมนีในช่วงต้นเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top