SCBAM เปิดเพิ่มกองผสมตราสารหนี้-ดัชนีหุ้น ESG ลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น ขาย 16-22 พ.ค.

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีจากกลยุทธ์ลดความเสี่ยงด้านขาดทุนเงินต้น พร้อมหาโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ผ่านการออกเสนอขายกองทุน Structured fund อ้างอิงแนวคิด ESG ในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นการเข้าลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายการบริหารและการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญความยั่งยืน (ESG) ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจและความมั่นคงต่อผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดทุน

และเพื่อเป็นการตอบรับความต้องการ บริษัทจึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Performance-Linked Complex Return 2YB ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ กองทุน SCBLINK2YB ซึ่งมีนโยบายการเข้าลงทุนใน ดัชนี S&P ESG Global Macro เป็นดัชนีที่ผสมผสานการลงทุนของสินทรัพย์หลากหลายประเภท มีการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนของดัชนีตามทิศทางตลาด ปรับสมดุล และสัดส่วนการลงทุนตามกลยุทธ์ย่อย ที่ประกอบด้วยดัชนีพันธบัตรรัฐบาล และดัชนีหุ้น ESG ในตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ในการหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในทุกสภาวะตลาด โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 16-22 พฤษภาคม 2566 เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

นางนันท์มนัส กล่าวต่อไปว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งล่าสุดอีก 0.25% ในรอบการประชุมเดือน พ.ค.66 เป็น 5-5.25% และส่งสัญญาณเริ่มหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มมีแนวโน้มขยายตัวช้าลง การเข้าใกล้จุดสูงสุดของการดำเนินนโยบายการเงินแบบหดตัว จะทำเป็นจุดที่น่าลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี อีกทั้งทำให้เฟดมีขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy space) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดทุนมีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้

ในจังหวะนี้ บริษัทมองว่าตลาดทุนยังอยู่ในช่วงระยะปรับฐาน จึงมองเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนกับกลุ่มสินทรัพย์หุ้นคุณภาพที่คาดว่าจะสามารถโดดเด่น/ทนทานกว่าตลาดโดยรวม และเป็นจังหวะที่ระดับราคาตลาดน่าสนใจเข้าลงทุน

สำหรับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Performance-Linked Complex Return 2YB ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ กองทุน SCBLINK2YB เป็นกองทุน Complex Fund อายุ 2 ปี ที่ลงทุนในธุรกิจที่เน้นการบริหารและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจด้วยความยั่งยืน โดยกองทุนจะมีนโยบายแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ (1) ลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นตราสารลงทุนที่มีความผันผวนต่ำ ในสัดส่วนร้อยละ 97.50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น อีกทั้ง ยังมีการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ของอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศทั้งจำนวน จึงทำให้มีโอกาสได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมโอกาสรับผลตอบแทน/ดอกเบี้ยคงที่ระหว่างทางที่ 0.5% ในปีที่ 1 และปีที่ 2

สำหรับส่วนที่ (2) ลงทุนในสัญญาออปชั่นอ้างอิงกับดัชนี S&P ESG Global Macro อีกประมาณ 2.50% โดยมีตัวคูณร่วม (Participation Rate) อยู่ที่ 50% และจ่ายผลตอบแทนส่วนเพิ่มแบบ Performance Link รวมถึงมีการปรับสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนตามทิศทางตลาดด้วยวิธี rule-based จึงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่ไม่จำกัด หากดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ณ วันพิจารณาเมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top