“ไมเคิล เบอร์รี” นักลงทุนชื่อดังเข้าซื้อหุ้นแบงก์ภูมิภาคสหรัฐใน Q1/66

เอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐระบุในวันจันทร์ (15 พ.ค.) ว่า นายไมเคิล เบอร์รี ผู้ก่อตั้งบริษัทไซออน แอสเซท แมเนจเมนท์ (Scion Asset Management) เข้าซื้อหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐหลายแห่งในช่วงไตรมาส 1/2566 แม้เวลานั้นเกิดภาวะปั่นป่วนขึ้นในภาคธนาคารก็ตาม

ทั้งนี้ บริษัทไซออนเข้าซื้อหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) จำนวน 150,000 หุ้น, หุ้นแพคเวสต์ แบงคอร์ป (PacWest Bancorp) จำนวน 250,000 หุ้น, หุ้นนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ แบงก์คอร์ป (New York Community Bancorp) จำนวน 850,000 หุ้น และหุ้นเวสเทิร์น อลิอันซ์ แบงก์คอร์ป (Western Alliance Bancorp) จำนวน 125,000 หุ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า FRB ล้มละลายเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ค. ทำให้กลายเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2551 อย่างไรก็ตาม เอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์สหรัฐไม่ได้ระบุว่า บริษัทไซออนได้ทำการขายหุ้นไปก่อนหน้าที่ FRB จะล้มหรือไม่

นอกจากนี้ บริษัทไซออนยังได้เข้าซื้อหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค (Wells Fargo & Co) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทไซออนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

อนึ่ง นายเบอร์รีเป็นอดีตนายแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยฉวยโอกาสทำเงินก้อนโตในช่วงที่ฟองสบู่เริ่มก่อตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นเรื่องราวของเขาก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ชื่อดังคือ The Big Short (เกมฉวยโอกาสรวย) ที่เข้าฉายในปี 2558 สวมบทบาทโดยคริสเตียน เบล ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนคว้ารางวัลออสการ์ได้ในที่สุด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top