บังกลาเทศเผชิญไฟฟ้าดับครั้งใหญ่หลังไซโคลนพัดถล่มกระทบการผลิตก๊าซ

บังกลาเทศประสบปัญหาไฟฟ้าดับครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 7 เดือน หลังเผชิญพายุพัดถล่มอย่างรุนแรงจนทำให้สถานีก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ลอยน้ำทั้ง 2 แห่งต้องปิดทำการ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน หลังจากบังกลาเทศต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ก่อให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างทั่วประเทศ

ประชากรบังกลาเทศหลายล้านคนต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนักและราคาพลังงานโลกที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำหรับโรงไฟฟ้าไม่มีความแน่นอน

ก๊าซธรรมชาติครองสัดส่วนกว่าครึ่งในกำลังการผลิตพลังงานของประเทศต่อปี โดยในตอนนี้ บังกลาเทศต้องเผชิญกับผลกระทบจากราคาพลังงานและซัพพลายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ปริมาณสำรองก๊าซในประเทศลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ข้อมูลจากผู้ให้บริการด้านโครงข่ายพลังงานของบังกลาเทศเปิดเผยให้เห็นว่า บังกลาเทศขาดแคลนพลังงานราว 17% เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ขณะที่ พลังงานขาดแคลนมากกว่า 14% เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14 พ.ค.) โดยการขาดแคลนพลังงานที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นในช่วงหลังเที่ยงคืน

ประธานบริษัทก๊าซธรรมชาติแห่งชาติของบังกลาเทศระบุว่า สถานีซัมมิท แอลเอ็นจี (Summit LNG) ซึ่งกลับมาดำเนินการอีกครั้งเมื่อวานนี้ จะช่วยเพิ่มซัพพลายพลังงานขึ้น 2 ใน 3 สู่ระดับ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (mmscfd) ในวันนี้ (16 พ.ค.)

นายซาเนนดรา แนท ซาร์เกอร์ ประธานบริษัทปิโตรบังกลา (Petrobangla) กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สถานี LNG โมเฮชคาลี (Moheshkhali LNG terminal) ซึ่งเป็นหน่วยผลิต LNG ลอยน้ำอีกแห่งหนึ่งจะกลับมาให้บริการอีกครั้ง “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top