พรรคร่วมฯตั้ง 7 คณะทำงานเปลี่ยนผ่าน “พิธา” นั่งหัวโต๊ะประชุมนัดแรก 6 มิ.ย.ยังไร้ข้อตกลง ปธ.สภา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงผลการประชุมร่วมกันของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลว่า ที่ประชุมหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค มีมติร่วมกันในการจัดตั้งคณะทำงานประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 6 มิ.ย. ส่วนการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ได้มีการหารือในวันนี้ แต่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจะหารือร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด

คณะทำงานจะประกอบไปด้วยบุคลากรดังต่อไปนี้

1. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมการการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน

2. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล

3. ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย

4. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนจากพรรคประชาชาติ

5. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย

6. นายวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนจากพรรคเสรีรวมไทย

7. นายกันต์วีร์ สืบแสง ตัวแทนจากพรรคเป็นธรรม

8. นายวสวรรธน์ พวงพรศรี ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยรวมพลัง

9. นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม

 

พร้อมกันนี้จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นอีก 7 ชุด เพื่อตอบสนองการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ดังนี้

คณะทำงานชุด 1 คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล และพลังงาน

คณะทำงานชุด 2 คณะทำงานเกี่ยวกับภัยแล้ง เอลนิลโญ

คณะทำงานชุด 3 คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

คณะทำงานชุด 4 คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

คณะทำงานชุด 5 คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และ PM 2.5

คณะทำงานชุด 6 คณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปากท้อง และ SME

คณะทำงานชุด 7 คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหายาเสพติด

“คณะทำงานต่างๆ จะนำไปสู่การหาทางออกร่วมกันของทุกพรรค ในการแก้ไขปัญหาของประเทศในประเด็นต่างๆ เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกันในการแถลงต่อรัฐสภา และนำไปปฏิบัติในฐานะฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป” นายพิธา กล่าว

พร้อมยืนยันว่า การทำงานร่วมกันของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยดี โดยจะสามัคคีกันเพื่อจะทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

สำหรับการจัดสรรตำแหน่งฝ่ายบริหารนั้น จะเกิดขึ้นภายหลังจากการทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน โดยยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top