PTT รับปีนี้ผันผวนจากทั้งปัจจัยบวก-ลบ ราคาพลังงานปรับลง-กังวลเศรษฐกิจถดถอยกระทบดีมานด์

นายธนพล ประภาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินภาพรวมธุรกิจปีนี้มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยคาดการณ์ราคาก๊าซฯ (GAS) เมื่อเทียบกับปีก่อนปรับตัวลดลง สอดคล้องกับ Japan-Korea Marker (JKM) ก็คาดว่าจะปรับตัวลงประมาณ 47% มาอยู่ที่ 15-21 เหรียญสหรัฐ/MMBTU จากปีก่อนอยู่ที่ 34 เหรียญสหรัฐ/MMBTU ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ ก็คาดว่าจะปรับตัวลดลงราว 16% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 79-84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้านค่าการกลั่นสิงคโปร์ (GRM) คาดจะปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ราว 54% หรืออยู่ที่ 4-5 เหรียสหรัฐ/บาร์เรล พร้อมกันนี้ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีคาดอ่อนตัวลง 6-12% จากปีก่อน จากความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย

ธุรกิจ Upstream ภายใต้ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ก็คาดว่าปริมาณการขายปีนี้จะลดลง แต่ยังได้ปัจจัยหนุนจากสามารถรักษาระดับต้นทุนการผลิตให้เท่ากับปีก่อน ด้านธุรกิจก๊าซธรรมชาติ คาดปรับตัวสูงขึ้นตามดีมานด์ รวมถึงยังมีผลผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งเอราวัณ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในช่วงกลางปีนี้ และเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในช่วงปลายปีนี้

โรงแยกก๊าซ คาด U-Rate จะเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน จากการที่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และการปิดซ่อมบำรุงที่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยราคา Spot LNG จะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากมีต้นทุนถูกลง

ธุรกิจน้ำมัน หรือ Downstream คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ตามเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ขยายตัวได้ราว 3.4% โดยแรงหนุนหนักจะมาจากภาคการท่องเที่ยว หลังจีนเปิดประเทศ การบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวต่อนเนื่อง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลง กลับสู่เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ส่วนธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี (P&R) จะเป็นปีที่ท้าทาย โดย GRM อ่อนตัวลงเทียบกับปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงก็น่าจะส่งผลดีต่อต้นทุน ขณะที่ปิโตรเคมี คาดดีมานด์จากจีนจะกลับมาได้ในครึ่งปีหลัง

ธุรกิจโรงไฟฟ้า คาดดีมานด์เติบโตตามความต้องการใช้ในประเทศ และราคาก๊าซธรรมชาติหรือถ่านหินก็ปรับตัวลง ส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้า

Future Energy & Beyond ในส่วนของธุรกิจ EV Chargers บริษัทฯ ได้ร่วมกับทางบมจ.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ติดตั้ง EV Chargers ตามสถานีบริการน้ำมัน, บ้าน, ห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยมีเป้าหมายติดตั้ง Arun Plus 3,850 สถานี และ OR 800 สถานี ส่วน Beyond ในปีที่ผ่านมาได้เข้าซื้อหุ้นใน Lotus Pharmaceutical และ Adalvo ธุรกิจยาระดับโลก คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เข้ามาเต็มปี

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน อาทิ โครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก เส้นที่ 5 ปัจจุบันดำเนินการเสร็จไปแล้วในเฟส 1 และ 3 ส่วนเฟส 2 อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปีนี้, โรงแยกก๊าซ หน่วยที่ 7 ที่จะมาทดแทนโรงแยกก๊าซ หน่วยที่ 1 คาด COD ได้ในไตรมาส 1/67, โครงการ Ole 2 ของ PTTGC คาด COD ไตรมาส 2/66, โครงการผลิตแบตเตอรี่ (Module Battery Production Plant) กำลังการผลิต 1,000 MWh คาด COD ไตรมาส 4/66 ส่วน EV Manufacturing Plant in Thailand คาด COD ได้ในปี 67

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top