ก.ล.ต.เตือนให้ระวังลงทุน STARK หลังขอยืดเวลาตรวจสอบ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับงบการเงินและผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ของ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK) ด้วยความระมัดระวัง เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุน

ตามที่ ก.ล.ต.ได้เร่งรัดติดตามให้กรรมการ STARK เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทฯ และให้เปิดเผยข้อมูล ซึ่งรวมถึงการจัดทำและนำส่งรายการทางการเงินที่คงค้างทั้งหมดโดยเร็ว และอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) สั่งให้ STARK ขยายขอบเขตการตรวจสอบ special audit ให้ครอบคลุมในหลายเรื่องที่สำคัญในทันที และต่อมา STARK ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2565 เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.66 และเปิดเผยข้อมูลผลการตรวจสอบ special audit ระยะแรก พร้อมขอขยายระยะเวลาการเปิดเผยผลการตรวจสอบ special audit ทั้งหมดออกไปอีก 30 วันนั้น

จากรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินรวมของ STARK ในประเด็นต่างๆ หลายประเด็น และผลการตรวจสอบ special audit ระยะแรก ซึ่งได้แสดงข้อมูลยอดขายที่ผิดปกติ ยอดสินค้าคงเหลือที่ผิดปกติ รายงานวิเคราะห์อายุลูกหนี้ถูกจัดทำอย่างไม่ถูกต้อง และเงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้าผิดปกติ ทำให้มีรายการปรับปรุงที่สำคัญที่เกิดขึ้นในระหว่างปี 2565 และการปรับปรุงรายการย้อนหลังไปยังงบการเงินของปีก่อนหน้าปี 2565 ก.ล.ต.จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาศึกษาที่เกี่ยวข้องข้อมูลดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้มีการเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ STARK จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.66

ในกรณีนี้ ก.ล.ต.ได้ดำเนินการในกระบวนการตรวจสอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และหากพบว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก.ล.ต.จะดำเนินการตามกฎหมายตามกระบวนการต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างกันด้วยแล้ว

นอกจากนี้ เนื่องจากผลการตรวจสอบ special audit ที่กล่าวข้างต้นยังไม่ครอบคลุมขอบเขตการตรวจสอบตามที่ ก.ล.ต.สั่งการไว้ทั้งหมด ซึ่ง STARK ได้มีหนังสือลงวันที่ 16 มิ.ย.66 ขอขยายระยะเวลาการดำเนินการตรวจสอบ special audit เป็นวันที่ 17 ก.ค.66 เนื่องจากยังมีข้อมูลที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม โดย ก.ล.ต.จะได้พิจารณาคำขอดังกล่าวต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top