หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งซึมลงตามภูมิภาค การเมืองในประเทศไม่แน่นอน-กังวลศก.โลกชะลอ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งซึมตัวลงตามตลาดภูมิภาค จากไร้ปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่ยังมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมากขึ้น คาดการณ์ส่งออกไทยติดลบต่อเนื่อง และค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า ให้แนวรับไว้ที่ 1,475 จุด และแนวต้าน 1,495 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งซึมตัวลง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ จากยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ ขณะที่ปัจจัยลบยังปกคลุมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนการเมืองในประเทศ, ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวมากขึ้น หลังตัวเลขภาคการผลิต (PMI) ของโลกแย่ลง

ประกอบกับวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกของไทย เดือนพ.ค. ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาติดลบ 8% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ที่ติดลบ 7.6% และเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่า ยังคงกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้า

ให้แนวรับไว้ที่ 1,475 จุด และแนวต้าน 1,495 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 มิ.ย.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,714.71 จุด ลดลง 12.72 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,328.82 จุด ลดลง 19.51 จุด หรือ -0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,335.78 จุด ร่วงลง 156.74 จุด หรือ -1.16%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,851.66 จุด เพิ่มขึ้น 57.53 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,177.23 จุด ลดลง 20.67 จุด หรือ -0.65% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 32,629.96 จุด ลดลง 68.85 จุด หรือ -0.21%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 มิ.ย.66) 1,485.32 จุด ลดลง 20.20 จุด (-1.34%) มูลค่าซื้อขาย 40,108.08 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 528.45 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(26 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 69.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 มิ.ย.) อยู่ที่ 4.18 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.20 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง เกาะติดตัวเลขส่งออกไทยวันนี้

– พรรคเพื่อไทย มั่นใจ ดีลประธานสภาฯ จบ ย้ำ หากการหารือกับพรรคก้าวไกลตกลงกันได้ จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาเร่งด่วน-เสนอรายชื่อเร็วที่สุด พร้อมจ่อคุยแผนสำรอง 8 พรรคร่วมกรณีตั้งรัฐบาลไม่ได้ ด้านศาลรธน. สั่งอัยการสูงสุดตรวจสอบ “รับ-ไม่รับ” คำร้องปม “พิธา” ชงยกเลิก ม.112 พร้อมแจ้งกลับภายใน 15 วัน

– ก.ล.ต. ผนึก 10 องค์กร แถลงฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน กรณีหุ้น STARK ย้ำเร่งตรวจสอบเอาผิด หากพบทุจริตโทษ จำคุกถึง 20 ปี ส่วนความเสียหายรวมประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท ด้าน สภาวิชาชีพบัญชี ระบุชัดดำเนินการตามมาตรฐานสากลยืนยัน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ร่วมมือทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบ

– DSI เล็งประเดิมเชือด 3 ราย ตัวการร่วมทุจริต STARK ส่งซิก 1 รายเป็นอดีตผู้บริหารบริษัท ส่วนอีก 2 รายเป็นลูกน้องผู้บริหารรายนี้ ล่าสุดสอบปากคำไปแล้ว 4 ราย จับตาชื่อ “ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ” อดีตซีเอฟโอสตาร์คฯ และอดีตกรรมการ 4 บริษัทเจ้าปัญหา หลังล่าสุดมีรายงานเข้าพบให้ข้อมูลกับก.ล.ต.แล้ว ส่ออาจเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ฟากตลท.เกิดความเสียหายทางบัญชีมูลค่ารวมกว่า 21,500 ล้านบาท

– “กอบศักดิ์” หวังตั้งรัฐบาลใหม่สร้างเสถียรภาพการเมือง หนุนเศรษฐกิจไทย ชี้ครึ่งปีหลังปัจจัยเสี่ยง ภายนอกรออยู่หลายเรื่อง หวังท่องเที่ยวและการลงทุนจากจีนหนุนเศรษฐกิจไทย “หอการค้า” หวั่นตั้งรัฐบาลได้ช้าฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ หวังตั้งรัฐบาลใหม่ได้ตามไทม์ไลน์ ลดผลกระทบเศรษฐกิจ คาดครึ่งปีหลังไทยเจอปัญหารุมเร้าเพียบ หวังสหรัฐหยุดการขึ้นดอกเบี้ย

– จับตา 27 มิ.ย.นี้ ชงครม.รับทราบหลักการ แก้สัญญา “ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน” ตามมติบอร์ด อีอีซี ที่เห็นชอบเพิ่มเติมกรณี “เหตุสุดวิสัย” เปิดช่องเจรจาในอนาคต และแบ่งจ่ายค่าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 7 งวด ด้านรฟท.พร้อมเร่งหารือรายละเอียด ร่างสัญญาฉบับแก้ไข

 

หุ้นเด่นวันนี้

– SCB (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า Bloomberg Consensus 130 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามยอดสินเชื่อที่ยังขยายตัว NIM ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ โดย SCB มีสัดส่วนเงินฝากที่เป็น CASA สูงจึงได้ประโยชน์โดยตรง

– MAJOR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20.00 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 จะฟื้นตัวทั้ง q-q และ y-y แรงหนุนจากการเข้าช่วง High Season ของอุตสาหกรรมที่มีหนังฟอร์มใหญ่เข้าฉาย นอกจากนี้ยังคาดจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย MPIC หนุนกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ขยายตัวเด่น และคาดว่าในช่วง 2H23 ยังดีต่อเนื่อง ผสานคาดอัตราการจ่ายปันผลอยู่ในระดับสูงราว 5% ต่อปี

– AMATA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท ภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี 66 นี้ยังมีแรงหนุนจากการกลับมาเจรจากับลูกค้าต่างชาติได้อีกครั้งหลังการระบาดของ Covid-19 การตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ซึ่งทาง AMATA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 66 ไว้ที่ 2,250 ไร่(+125%YoY) คาดยอดขายปี 66 จะมาจาก 1500 ไร่ ในไทย และ 750 ไร่ในเวียดนาม ส่วนยอดโอนที่ดินปีนี้บ.ตั้งเป้ามีจำนวน 50% ของ backlog จากสิ้นปี 65 ที่ 6,685 ลบ. โดยเบื้องต้น เราคาดว่าในส่วนของกำไร ไตรมาส 2/66 นี้จะปรับตัวได้ดีขึ้น YoY ทั้งจากยอดโอนและรายได้จากสาธารณูปโภค ปัจจุบัน เราประเมินกำไรปกติปี66 ที่ 2,031 ลบ. (+107%YoY)

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top