เตือน 23 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน/น้ำป่าไหลหลาก 28 ก.ค.-2 ส.ค.

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านประเทศไทย ทำให้ฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก กอนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรธรณี พบพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน ในช่วงวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.66 ดังนี้

1.ภาคเหนือ

  • จังหวัดตาก (อำเภออุ้มผาง)
  • จังหวัดอุทัยธานี (อำเภอบ้านไร่)

2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอเกษตรสมบูรณ์)
  • จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย)
  • จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเซกา และบึงโขงหลง)
  • จังหวัดนครพนม (อำเภอท่าอุเทน และศรีสงคราม)
  • จังหวัดสกลนคร (อำเภอโคกศรีสุพรรณ)
  • จังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอเสลภูมิ และโพนทอง)
  • จังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอนางรอง)
  • จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอชุมพลบุรี)
  • จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอภูสิงห์ ขุขันธ์ ขุนหาญ และปรางค์กู่)
  • จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอบุณฑริก)

3.ภาคตะวันออก

  • จังหวัดฉะเชิงเทรา (อำเภอท่าตะเกียบ)
  • จังหวัดชลบุรี (อำเภอบ่อทอง)
  • จังหวัดระยอง (อำเภอเขาชะเมา บ้านค่าย แกลง และบ้านฉาง)
  • จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี ขลุง มะขาม เขาคิชฌกูฏ ท่าใหม่ โป่งน้ำร้อน แก่งหางแมว และนายายอาม)
  • จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด บ่อไร่ เกาะช้าง แหลมงอบ และเขาสมิง)

4.ภาคใต้

  • จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ และกระบุรี)
  • จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง)
  • จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
  • จังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่)
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอบ้านตาขุน และพนม)
  • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอช้างกลาง)

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

  1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมือง ที่เคยเกิดน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายได้ทัน
  2. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top