หุ้นไทยปิดลบ 1.71 จุด แกว่งกรอบแคบชะลอลงทุนรอลุ้นเฟด-ต่างชาติขายต่อหลังการเมืองไม่ชัด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,524.59 จุด ลดลง 1.71 จุด (-0.11%) มูลค่าซื้อขาย 41,255.90 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบพักตัวเล็กน้อย นักลงทุนชะลอการลงทุนระหว่างรอผลประชุมเฟดคืนนี้ รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจนส่งผลต่างชาติยังขายต่อ แนวโน้มพรุ่งนี้หากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายอาจช่วยหนุนดัชนี แต่หากยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่ออาจกดดันดัชนีได้เช่นกัน พร้อมให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,510 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,524.59 จุด ลดลง 1.71 จุด (-0.11%) มูลค่าซื้อขาย 41,255.90 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งบวกและลบ โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,519.44 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,530.18 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 159 หลักทรัพย์ ลดลง 263 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 213 หลักทรัพย์

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ดัชนีพักตัวลงมาเล็กน้อย จากการที่นักลงทุนชะลอเข้าลงทุน ประกอบกับมีการขายทำกำไรลดความเสี่ยงระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้

ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่มีความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีเกิดการพักตัวต่อหลังจากขึ้นไปในช่วงก่อนหน้านี้

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

แนวโน้มพรุ่งนี้ หากเฟดส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายลงจะทำให้ดัชนีมีโอกาสแกว่งตัวขึ้น แต่หากยังส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อก็จะเป็นแรงกดดันต่อดัชนี เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ให้แนวต้านไว้ที่ 1,540 จุด และแนวรับ 1,510 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,506.31 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,967.84 ล้านบาท ปิดที่ 110.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,719.30 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,312.66 ล้านบาท ปิดที่ 20.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,233.01 ล้านบาท ปิดที่ 35.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top