ตลท.ประกาศเพิ่มเหตุหุ้น STARK เข้าข่ายพ้นตลาดหุ้นกรณีแจ้งงบการเงินเป็นเท็จ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศให้หุ้นสามัญของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเนื่องจากงบการเงินประจำปี 2565 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์

ต่อมาได้ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากรายงานความเห็นผู้สอบบัญชีในงบการเงินประจำปี 2565 ที่ให้ความเห็นว่า พบรายการผิดปกติจำนวนหลายรายการที่แสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญและมีผลกระทบต่องบการเงินรวมของบริษัท ซึ่งผู้สอบบัญชีได้รายงานความผิดปกติดังกล่าวให้คณะกรรมการและผู้บริหาร STARK ได้รับทราบข้อมูลแล้ว โดยผู้บริหารของ STARK ได้พิจารณาและปรับปรุงรายการบัญชีทั้งในงบการเงินประจำปี 2565 และงบการเงินประจำปี 2564 ด้วยแล้ว

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษ STARKและบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 9 ราย

ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ข้อหาร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในบัญชีหรือเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย ในปี 2564 – 2565 เพื่อลวงบุคคลใดๆ ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวถือเป็นเหตุที่ทำให้หุ้นสามัญของ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติม

ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงดำเนินการกับ STARK ดังนี้

1. ประกาศให้หุ้นสามัญของ STARK มีเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเพิ่มเติมอีก 1 เหตุ จากการที่ STARK มีการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน ตามข้อ 7(3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังคงขึ้นเครื่องหมายNC (Non – Compliance) เพื่อให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ STARK เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน และเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ STARK ต่อไป จนกว่า STARK จะสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนทั้งหมดให้หมดไปภายในระยะเวลาที่กำหนดได้

2. กำหนดให้ STARK ต้องแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อ 1 ข้างต้น ด้วยการนำส่งงบการเงินประจำปี 2566 ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 และความเห็นของผู้สอบบัญชีที่มีต่องบการเงินดังกล่าวจะต้องไม่มีประเด็นดังต่อไปนี้

– ความไม่ถูกต้องของข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ

– ระบบการควบคุมภายในของ STARK ที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

– ถูกจำกัดขอบเขตการสอบบัญชีโดย STARK หรือกรรมการหรือผู้บริหารของ STARK

– ไม่สามารถหาหลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอ

สำหรับปัจจุบัน รายละเอียดของการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและกำหนดระยะเวลาดำเนินการในแต่ละเหตุที่ STARK จะต้องดำเนินการ มีดังนี้

– กรณีเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จในงบการเงิน : มีกำหนดแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567

– กรณีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์ : มีกำหนดแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนถึงภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569

ทั้งนี้ STARK มีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นให้หมดไป และดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายภายในกำหนดระยะเวลาของแต่ละเหตุ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาแล้วหาก STARK ยังไม่สามารถแก้ไขเหตุเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนให้หมดไปได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ STARK ต่อไป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top