“โรม” หวังทุกฝ่ายร่วมปิดสวิตช์ ม.272 เลิกอำนาจ สว.เลือกนายกฯ

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกพรรค เปิดเผยถึงการประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) เพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ สว.ยกเลิกอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยหวังว่า สส.ทุกพรรคการเมือง และ สว. ที่เคยสนับสนุนการปิดสวิตช์ สว. และต้องการปิดสวิตช์ตนเองเพิ่มเติม จะให้การสนับสนุนและไม่ใช้ข้ออ้างเรื่องการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ยังจะต้องอาศัยเสียงของ สว.อยู่มาขัดขวางการแก้ไขในครั้งนี้ รวมถึงไม่ใช้วิชามารในการทำให้องค์ประชุมรัฐสภาล่ม จนไม่สามารถพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะอำนาจการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ สว. เหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน ดังนั้นอำนาจดังกล่าว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องคงไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อยื้อระยะเวลาประชาธิปไตยของประเทศ และยังทำให้การจัดตั้งรัฐบาล มีความแปลกพิสดาร มีการผสมข้ามสายพันธุ์ ไม่มีเรื่องอุดมการณ์ และเปิดโอกาสให้ สว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถตั้งเงื่อนไขพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมาร่วมรัฐบาลได้

โดยเชื่อว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง และมีความเห็นสอดคล้องกันว่า อำนาจ สว.ดังกล่าวเป็นหล่มทางการเมือง กระบวนการแก้ไขครั้งนี้จะเสร็จสิ้นได้ 3 วาระ โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น หรือเสร็จสิ้นในเดือนกันยายนนี้

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากไม่มีมาตราดังกล่าว การจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนายกรัฐมนตรีตามความต้องการของประชาชนน่าจะเสร็จสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ สว. ระบุว่า ควรให้รอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก่อนนั้นว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งในคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้มีการระบุถึงกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขอให้พรรคก้าวไกลสนับสนุนแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเพื่อตอบแทนบุญคุณ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในการทำงานทางการเมืองขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ไม่เกี่ยวข้องกับบุญคุณ และพรรคก้าวไกลจะเป็นหนี้บุญคุณของประชาชนเท่านั้น

“สิ่งที่พรรคก้าวไกลยอมตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และให้สิทธิพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อรักษา 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเอาไว้นั้น ก็ถือว่า มีบุญคุณมากกว่า และถือว่า เป็นการยอมแล้ว ยอมอีก และยอมต่อ”

อยางไรก็ตาม ที่ประชุมพรรควานนี้ (2 ส.ค.) ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนายกรัฐมนตรี และเดิมทีจะมีข้อสรุปในวันนี้ (3 ส.ค.) แต่เนื่องจากการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ถูกเลื่อนออกไปจึงทำให้ยังไม่มีข้อสรุป แต่ย้ำว่า พรรคก้าวไกล จะไม่ลงมติสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ แน่นอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top