ADB เผยสิงคโปร์ยืนหนึ่งประเทศหนุนผู้ประกอบการดิจิทัล ไทยรั้งอันดับ 59

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานคาดการณ์การพัฒนาเอเชีย 2565 ฉบับปรับปรุงในหัวข้อผู้ประกอบการในยุคดิจิทัลที่บ่งชี้ว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมเพื่อผู้ประกอบการยุคดิจิทัลมากที่สุดในโลก

ทั้งนี้ ADB ได้จัดทำดัชนี Global Index of Digital Entrepreneurship Systems (GIDES) เพื่อจัดอันดับประเทศที่มีสิ่งแวดล้อมภายในประเทศเหมาะสำหรับผู้ประกอบการยุคดิจิทัล โดยเป็นการวัดคุณภาพของสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ประกอบการยุคดิจิทัลด้วยการวัดระดับในการปรับตัวรับยุคดิจิทัลในสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงการสนับสนุนระบบนิเวศให้กับผู้ประกอบการ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นการเปรียบเทียบคุณภาพระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมทางดิจิทัลใน 113 ประเทศและดินแดนทั่วโลก

ADB ระบุว่า สิงคโปร์ครองอันดับ 1 ของโลกในการจัดอันดับดังกล่าว โดยได้คะแนน 81.3 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม ส่วนประเทศที่ติดอันดับ 2 คือสหรัฐ ตามมาด้วยสวีเดน เดนมาร์ก และสวิตเซอร์แลนด์

ในระดับโลกนั้น ไทยติดอันดับ 59 ด้วยคะแนน 25.9 มาเลเซียครองอันดับ 27 ด้วยคะแนน 43.1 จีนครองอันดับ 39 ด้วยคะแนน 35.3 เวียดนามครองอันดับ 63 ด้วยคะแนน 23.1 และอินโดนีเซียครองอันดับ 71 ด้วยคะแนน 20.4

เมื่อพิจารณาเฉพาะในเอเชียพบว่า ไทยติดอันดับ 8 ขณะที่สิงคโปร์ติดอันดับ 1 เกาหลีใต้ติดอันดับ 2 มาเลเซียติดอันดับ 3 จีนติดอันดับ 4 จอร์เจียติดอันดับ 5 คาซัคสถานติดอันดับ 6 อาร์เมเนียติดอันดับ 7 อาเซอร์ไบจานติดอันดับ 9 และเวียดนามติดอันดับ 10

ADB ระบุว่า เวลานี้กลุ่มผู้ประกอบการหรือประชาชนที่เริ่มทำธุรกิจอยู่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยในช่วงที่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด เทคโนโลยีสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารได้ช่วยให้กลุ่มผู้ประกอบการผ่านพ้นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญความยากลำบากจากผลพวงของการล็อกดาวน์ ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ถูกสั่งปิดชั่วคราวสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วยการให้บริการสั่งซื้ออาหารผ่านทางออนไลน์

รายงานระบุว่า ความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจจากอานิสงส์ของยุคดิจิทัลช่วยให้เศรษฐกิจและสังคมโดยรวมมีความคล่องตัว โดยในอนาคต ผู้ประกอบการยุคดิจิทัลไม่เพียงมีความสำคัญต่อความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ แต่ยังมีศักยภาพที่จะกลายเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังผ่านพ้นช่วงโควิด-19 ระบาด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top