เดอะ พรอดดิจี ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาด LiVEx ขาย IPO 3 ล้านหุ้นระดมทุนขยายบริการระบบ IT

บมจ.เดอะ พรอดดิจี (ประเทศไทย) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 3 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.04% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ LiVEx โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์

เดอะ พรอดดิจี ประกอบธุรกิจบริการ ในการให้คำปรึกษา คำแนะนำและบริการด้านการพัฒนาระบบงานทางด้านสารสนเทศให้กับลูกค้าโดยมีการส่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้กับกลุ่มลูกค้าในบริษัทต่างๆ ตามลักษณะงานที่ลูกค้าต้องการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. การจัดหาและบริหารบุคคลากรชั่วคราว ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Outsourcing)

2. การให้คำปรึกษาและการพัฒนาโครงการสารสนเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินงานเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าร่วมปฏิบัติงาน (IT Implementation & Consulting)

กลุ่มลูกค้า คือ บริษัทคู่ค้าในทุกประเภทธุรกิจที่มีความต้องการในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ

กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ:

1. การรักษามาตรฐานในทุกส่วนงาน และ การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ (Standardization of Deliverables) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและความพึงใจของลูกค้าในทุกขั้นตอนของการบริการ บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องมาตรฐานการทำงานและการยกระดับมาตรฐานอย่างต่อเนื่องในทุกกระบวการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงการเข้าถึงลูกค้าใหม่ โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เพื่อความรวดเร็ว อำนวยความสะดวก สร้างถูกต้องแม่นยำ และเป็นการลดระยะเวลาการทำงานทางด้านเอกสารหรืองานที่ใช้แรงงานตามความเหมาะสมของแต่ละแผนกงาน

2. คุณภาพและการพัฒนาทักษะทีมงาน (Quality and Development) เนื่องด้วยบริษัทฯ เน้นการบริการด้วยคุณภาพระดับสูง เนื่องจากเป็นธุรกิจทางด้านการให้คำปรึกษา คำแนะนำและบริการทางด้านสารสนเทศ (Information Technology) คุณภาพและและศักยภาพของทีมงานและบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจ และความไว้วางใจจากลูกค้า บริษัทจึงเน้นการเสริมสร้างความเชี่ยวชาญของบุคลากรในงานและบริการที่มีคุณภาพสูง ตั้งแต่กระบวนการคัดสรร การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบทีมงานทุกท่านในระดับปฏิบัติการถึงความรู้ ความเข้าใจในรายละเอียดการทำงานเป็นอย่างดี เพื่อส่งมอบงานให้ลูกค้าอย่างมีคุณภาพ

3. ความเป็นเลิศของผู้เชี่ยวชาญและจำนวนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน(Talent Density) บริษัทมีนโยบายการทำงานที่ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ให้เข้ามาร่วมทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ทำงาน บรรยากาศการทำงาน การสนับสนุนทางด้านการฝึกอบรม การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หรือการศึกษาต่อ เพื่อเพิ่มศักยภาพตัวพนักงานให้ทันต่อการแข็งขันภายนอก เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและ แนวโน้มของตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษา การแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. วัฒนธรรมขององค์กร (People, Culture & Experience) บริษัทให้ความสำคัญกับพนักงานและวัฒนธรรมขององค์กรเป็นอย่างสูง เพื่อสามารถที่จะดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพ (Talent)รวมถึงรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับบริษัทได้นานที่สุด โดยมีการพัฒนานโยบายทางด้าน People,Culture & Experience อย่างต่อเนื่อง

5. การสร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียง บริษัทเห็นความสำคัญของภาพลักษณ์องค์กรซึ่งเป็นปัจจัยในการสร้างความมั่นใจ และสร้างการจดจำกับลูกค้าปัจจุบันและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าใหม่ๆเพื่อเพิ่มโอกาสรองรับงานใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ นางสาวขวัญตา สุดแสง ถือหุ้น 12,000,000 หุ้น คิดเป็น 60.00% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 52.17% นายรณกาจ ชินสำราญ 8,000,000 หุ้น คิดเป็น 40.00% จะลดเหลือ 34.78%

วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1. ขยายทีมงานเพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัท 2. สร้างและขยายฐานลูกค้าและเสริมสภาพคล่องของบริษัท โดยจะขยายฐานลูกค้าในตลาดใหม่หรืแตลาดที่ยังเข้าไม่ถึงในช่วงที่ตลาดแรงงานทางด้าน IT เติบโตอย่างมากอย่างในช่วงปัจจุบันและอนาคต 3. พัฒนาระบบ IT ทางด้านการบริหารจัดการหลังบ้านต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัท การปรับปรุงและเพิ่มโครงสร้างภายใน

ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ปี 64-65 มีรายได้รวม 57.97 ล้านบาท และ 64.00 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 5.69 ล้านบาท และ 5.14 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้รวม 42.33 ล้านบาท กำไรสทธิ 3.12 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 65 มีรายได้รวม 31.76 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2.69 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top