นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอาเซียน-จีน ครั้งที่ 8 (The 8th ASEAN-China Ministerial Meeting on Sanitary and Phytosanitary (SPS) Cooperation) ภายใต้บันทึกความเข้าใจร่วมระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในความร่วมมือด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (ASEAN-China MOU on SPS) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งจัดขึ้นในห้วงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ (AMAF) ครั้งที่ 45
ทั้งนี้ จีนได้แสดงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือด้าน SPS ระหว่างอาเซียนและจีนในแขนงต่างๆ ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำความสำคัญของการใช้ระบบใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร
ขณะที่ไทยได้กล่าวสนับสนุนจีน เนื่องจากประเด็นด้านเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ไทยให้ความสำคัญเช่นกัน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ว่า “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยเฉพาะการพัฒนาและใช้งานใบรับรองสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-SPS certificate) การตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) และระบบแจ้งเตือน (Rapid Alert System) เพื่อใช้สนับสนุนด้านความมั่นคงทางอาหาร ความปลอดภัยอาหาร และอำนวยความสะดวกทางการค้า
นอกจากนี้ ไทยยังได้แจ้งถึงความตระหนักในความสำคัญของการเชื่อมโยงเส้นทางระหว่างอาเซียนและจีน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางขนส่งสินค้าภายในภูมิภาค และเชื่อมต่อกับภูมิภาคอื่นผ่านเส้นทาง Belt and Road ต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ จีนมีข้อเสนอริเริ่มความร่วมมือด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคสัตว์และโรคพืชข้ามแดน และการระบาดของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานระหว่างอาเซียนและจีน โดยจีนขอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนสนับสนุนการดำเนินการความร่วมมือในด้านดังกล่าว ซึ่งไทยเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าวเช่นเดียวกัน เนื่องจากสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของมาตรการ SPS ขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันด้วย
อย่างไรก็ดี มกอช. ในฐานะหน่วยงานผู้ประสานหลักด้าน SPS ของไทย จะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมจัดทำท่าทีของอาเซียนในการดำเนินความร่วมมือด้านดังกล่าวร่วมกับจีนต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มกอช. ได้ผลักดันการดำเนินการด้านเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรและอาหารมาโดยตลอด โดยเป็นหน่วยงานกลางในการเจรจาผลักดันการเชื่อมต่อระบบ e-SPS กับประเทศคู่ค้า รวมทั้งเป็นหน่วยงานผู้ก่อตั้งและดูแลระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารของไทย (THRASFF) และของอาเซียน (ARASFF) ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 52
ตลอดจนได้จัดทำระบบ QR Traces เพื่อเป็นระบบตรวจสอบย้อนกลับ สำหรับสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย Q Mark ซึ่งการผลักดันความร่วมมือกับอาเซียนและจีนในประเด็นดังกล่าว จะนำไปสู่การยกระดับความเชื่อมั่นในสินค้าเกษตร และอาหารของไทย ส่งผลถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้าภายในภูมิภาคต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 66)
Tags: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, จีน, สินค้าเกษตร, อาเซียน, ไชยา พรหมา