รายงานประชุมชี้แบงก์ชาติออสซี่อาจขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า หากเงินเฟ้อพุ่งเกินคาด

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนต.ค.ในวันนี้ (17 ต.ค.) โดยระบุว่า กรรมการ RBA ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ต.ค. แต่ท้ายที่สุดแล้วกรรมการมีความเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลใหม่ที่มากพอที่จะนำไปสู่การตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.

ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.10% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้

รายงานระบุว่า ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการ RBA ได้แสดงความกังวลต่อการที่เงินเฟ้อไม่ได้ชะลอตัวลงตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.1% อาจจะถูกปรับขึ้นในการประชุมเดือนหน้า

“กรรมการ RBA ตระหนักว่า ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นถือเป็นประเด็นที่ RBA มีความกังวลมากที่สุด และคณะกรรมการไม่ต้องการให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่เป้าหมายล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน”

ขณะนี้ RBA ได้ตั้งสมมติฐานว่า เงินเฟ้อจะไม่ลดลงสู่เป้าหมายของ RBA ที่ระดับ 2-3% จนกว่าจะถึงสิ้นปี 2568 โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนดัชนี CPI ในเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 5.2%

ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมการ RBA จึงย้ำว่าการเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่งนั้น อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย นอกจากนี้ คณะกรรมการยังมองว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะมีอิทธิพลต่อการคาดการณ์เงินเฟ้อด้วย

“กรรมการ RBA คาดว่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และตลาดแรงงาน รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์ของกรรมการ RBA ก่อนที่การประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.” รายงานการประชุมระบุ

ทางการออสเตรเลียจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานประจำเดือนก.ย.ในสัปดาห์นี้ และจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำไตรมาส 3 ในวันที่ 25 ต.ค. ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสเพียง 16% ที่ RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย. แต่โอกาสดังกล่าวก็อาจจะสูงขึ้น หากตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top